พลังแห่งธาตุทั้ง 4 ในโดราเอมอน

โดย อ. กามล แสงวงศ์
23 กรกฎาคม 2559

การ์ตูนในดวงใจเรื่องหนึ่งของผมที่ตอน ม.ต้น ติดงอมแงมก็คือ โดราเอม่อน

จำได้ว่าตอนม.2 ที่ท่าบ่อ มีหนังเรื่องโดราเอม่อนตอนไดโนเสาว์ของโนบิตะที่ตื่นตาตื่นใจมาก เพราะสนุกและใหญ่โตอลังการตามประสาโรงหนัง

มาวันนี้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับธาตุทั้ง4จึงเห็นความเป็นธาตุอยู่ในบุคลิกของตัวละคร

โนบิตะ รายนี้ธาตุน้ำแน่ๆเพราะอ่อนไหว อ่อนแอ รักสบาย ขี้เกียจ ไม่ค่อยอดทน และชอบพึ่งพาคนอื่น แต่มีน้ำใจเหลือเฟือ

ไจแอ้น รายนี้ธาตุไฟ เจ้าอารมณ์ ชอบโชว์พลัง ชอบแสดงออก เชื่อมั่นตัวเองสูง ชอบการต่อสู้ แต่แพ้แม่ที่ธาตุไฟกว่า

ซูเนโอะ นี่ธาตุลมที่ชอบสนับสนุน เจ้าเล่ห์ รู้จักคนเยอะ ญาติมีทุกแห่งในโลกเลยมั๊ง ชอบพูดชอบแหย่

โดราเอม่อน ธาตุดิน ชอบทำตามกฎ มีข้าวของมาก ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเคร่งครัด อดทน

เมื่อทั้ง 4 ธาตุมาช่วยเหลือกันก็มักจะเอาชนะอุปสรรคต่างๆได้ในที่สุดเสมอ

ลงทุนให้รวยด้วยธาตุสี่

บทความเนื่องในวันโหรจรัญ 16 กันยายน 2555

โดย Pallas
http://www.horauranian.com
http://TheStarSeer.com
6
กันยายน 2555

          เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2553 ผมได้รับการติดต่อจากนักข่าวโพสต์ทูเดย์ เพื่อขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับการลงทุนตามธาตุทั้งสี่ เนื่องจากนักข่าวได้อ่านบทความ “ธาตุทั้งสี่และการบริหารจัดการ” ซึ่งผมเคยเขียนลงไว้ใน www.horauranian.com จึงสนใจอยากให้ผมช่วยขยายความในแง่มุมเกี่ยวกับการลงทุนให้มากขึ้น ผมจึงได้ให้สัมภาษณ์ไปโดยได้ลงในหนังสือพิมพ์โพสท์ทูเดย์ฉบับ 15 พ.ค. 2553 ในชื่อบทความว่า “ดิน-น้ำ-ลม-ไฟ ธาตุทั้งสี่ช่วยชี้ช่องลงทุน” ตอนที่ให้สัมภาษณ์นั้น ผมไม่ได้อธิบายละเอียดมากนัก เพียงแต่สรุปหลักการคร่าวๆของธาตุทั้งสี่ในแง่มุมที่เกี่ยวกับการลงทุนและยกตัวอย่างนักลงทุนชื่อดังในแต่ละธาตุไป บทความดังกล่าวก็ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี

          หลังจากนั้น ผมก็ได้ค้นคว้าวิจัยเรื่องดังกล่าวเพิ่มเติม จนพัฒนาเป็นหลักสูตรอบรมสำหรับคนทั่วไปที่ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานโหราศาสตร์ ดังเช่น เมื่อปลายปี 2554 ผมได้สอนหลักสูตร “เข้าใจนักลงทุนตามหลักธาตุสี่” ให้กับเจ้าหน้าที่การตลาด ของบริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก เพื่อเป็นแนวทางทำความเข้าใจนักลงทุนประเภทต่างๆและทำให้สามารถแนะนำการลงทุนให้ถูกกับจริตกับนักลงทุนแต่ละคนได้

อันที่จริง โหราศาสตร์สามารถนำไปใช้ในการลงทุนได้ในหลายรูปแบบ บ้างก็นำไปวิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจว่ามีแนวโน้มเป็นอย่างไร บ้างก็นำไปคำนวณดวงชะตาของหุ้นแต่ละตัวเพื่อหาจังหวะซื้อขาย บ้างก็นำไปวิเคราะห์ทิศทางราคาของสินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองคำ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์ตรงของผม พบว่า แม้นักลงทุนจะได้รับคำพยากรณ์ที่แม่นยำไปพร้อมๆกัน แต่กลับพบว่า นักลงทุนเหล่านั้นได้รับผลตอบแทนแตกต่างกัน นั่นเป็นเพราะว่า เมื่อรับทราบคำพยากรณ์ไป ก็ไม่ได้หมายความว่า แต่ละคนจะไปซื้อหุ้นตัวนั้นพร้อมกัน หรือในปริมาณเท่ากัน ที่สำคัญ จังหวะการขายหุ้นของแต่ละคนยิ่งแตกต่างกันไปใหญ่ ความแตกต่างเหล่านี้ ผมคิดว่ามาจากพฤติกรรมหรือนิสัยการลงทุนของแต่ละคนที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลอย่างยิ่งต่อผลตอบแทนจากการลงทุน

แล้วอะไรล่ะที่ส่งผลโดยตรงต่อพฤติกรรมการลงทุนของคนเราในมุมมองของโหราศาสตร์? คำตอบก็คือ พื้นดวงชะตาแต่ละคนนั่นเอง เราสามารถวิเคราะห์ดวงชะตาของนักลงทุนแต่ละคนเพื่อพยากรณ์อุปนิสัยการลงทุนได้ แต่จากประสบการณ์ที่ผมเรียนรู้มา พบว่า เครื่องมือการวิเคราะห์ที่มีประสิทธิผลที่สุดคือเครื่องมือที่เรียบง่าย “Simple is Best” หลักการธาตุทั้งสี่จึงเหมาะสมอย่างยิ่งในการวิเคราะห์อุปนิสัยของนักลงทุน

ในโลกวิชาการ ได้มีทฤษฎีการแบ่งประเภทของนักลงทุนอยู่หลายวิธี เช่น วิธี Barnwell Two-Way Method ที่พัฒนาโดย Marilyn MacGruder Barnwell แห่ง MacGruder Agency, Inc. เมื่อ พ.ศ.2530 ได้แบ่งนักลงทุนเป็น 2 พวก คือ นักลงทุนเชิงรับ (Passive Investors) ได้แก่ ผู้ที่รวยจากมรดก ผู้ที่ประสบความสำเร็จทางวิชาชีพ หรือคนที่ได้เงินจากคนอื่นมาลงทุน นักลงทุนกลุ่มนี้จะเน้นที่ความมั่นคงปลอดภัย มากกว่า ผลตอบแทน และ นักลงทุนเชิงรุก (Active Investors) ได้แก่ผู้ที่รวยขึ้นมาจากความสามารถของตนเอง คนที่เคยเสี่ยงแล้วประสบความสำเร็จ นักลงทุนกลุ่มนี้จึงยินดีรับความเสี่ยงมากขึ้นเพื่อให้ได้ผลตอบแทนมากขึ้น

ในช่วงเวลาใกล้กัน คือใน พ.ศ.2529 โธมัส เบลลาร์ด, เดวิด บีห์ล และโรนัลด์ ไคเซอร์ ได้นำเสนอแนวคิดการแบ่งนักลงทุนเป็น 5 ประเภท เรียกกันว่า “BB&K Five-Way Model” โดยแบ่งจากสองแกน แกนแรกคือ แกน เชื่อมั่น-วิตกกังวล (ระดับความเชื่อมั่น) และแกนที่สองคือ แกน ใจร้อน-ระมัดระวัง (วิธีลงทุน)

 

         เมื่อผสมแกนทั้งสองเข้าด้วยกัน ก็ได้แบ่งนักลงทุนออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่

  1. 1. นักผจญภัย (Adventurer) นักลงทุนที่เชื่อมั่นและใจร้อน เป็นพวกชอบเสี่ยง กล้าได้กล้าเสีย
  2. 2. ปัจเจกชน (Individualist) นักลงทุนที่เชื่อมั่นและระมัดระวัง มักเป็นผู้เชี่ยวชาญทางวิชาชีพ เช่น ทนายความ นักบัญชี ฯลฯ
  3. 3. ผู้พิทักษ์ (Guardian) นักลงทุนที่วิตกกังวลและระมัดระวัง มักเป็นผู้สูงอายุ ไม่ชอบความผันผวน
  4. 4. คนดัง (Celebrity)  นักลงทุนที่วิตกกังวลและใจร้อน เป็นพวกกลัวตกรถ มักซื้อๆขายๆบ่อยๆ
  5. 5. กลางๆ (Straight Arrow) นักลงทุนที่กลางๆ ไม่มีความโดดเด่นไปทางด้านไหนเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม การนำทั้งสองทฤษฎีไปใช้งานจริง ต้องอาศัยดุลยพินิจของผู้วิเคราะห์เป็นสำคัญ ส่งผลให้เกิดอคติได้ง่าย ในฐานะนักโหราศาสตร์ ผมจึงคิดว่า การนำหลักวิชาเรื่องธาตุสี่ไปใช้ น่าจะสะดวกและเหมาะสมยิ่งกว่าทั้งสองทฤษฎีดังกล่าว

ปรัชญาเรื่อง ธาตุสี่ นี้ได้รับการพัฒนาโดยนักปราชญ์ยุคโบราณมาไม่ต่ำกว่า 3,000 ปี และได้มีการนำไปประยุกต์ใช้กับแทบทุกศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น แพทย์ เคมี เล่นแร่แปรธาตุ จิตวิทยา การบริหารจัดการ ฯลฯ เมื่อราวทศวรรษ 1930 คาร์ล กุสตาฟ จุง ได้นำหลักธาตุสี่ไปใช้ในการจัดประเภทบุคลิกภาพของมนุษย์ โดยได้แบ่งออกเป็น 4 แบบ ได้แก่

  1. Intuition รับรู้และตัดสินเรื่องราวด้วยญาณสังหรณ์
  2. Sensation รับรู้และตัดสินเรื่องราวด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า
  3. Thinking รับรู้และตัดสินเรื่องราวด้วยการคิด
  4. Feeling รับรู้และตัดสินเรื่องราวด้วยความรู้สึก

ตั้งแต่นั้นมา แวดวงวิชาการทางจิตวิทยา ก็ได้พัฒนาต่อยอดแนวคิดของคาร์ล จุง ออกไปอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทฤษฎี Myers-Briggs Type Indicator (MBTI) ที่แบ่งออกเป็น 16 ประเภท และประเมินบุคลิกภาพโดยแบบทดสอบ ปัจจุบันเป็นแบบประเมินบุคลิกภาพที่แพร่หลายที่สุดในโลก  หรือทฤษฎี Keirsey Temperament Sorter (KTS) ที่พัฒนาต่อยอดจากแนวคิดของเพลโตและฮิปโปเครติส

ผมพบว่า ทุกๆทฤษฎีบุคลิกภาพต่างต่อยอดมาจากธาตุสี่ แต่ทวีความซับซ้อนขึ้นจนยากที่คนทั่วไปจะเข้าใจ ที่สำคัญ ต่างจัดประเภทผู้คนโดยการทำแบบทดสอบ ซึ่งจากประสบการณ์ของผม พบว่า เราสามารถตอบแบบประเมินเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาอย่างที่เราต้องการได้หากเราเข้าใจกลไกของทฤษฎีนั้นๆ (อย่างที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Manipulation) ทำให้การทำแบบประเมินไม่สะท้อนตัวตนที่แท้จริง ผมจึงคิดว่า วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดก็คือการกลับไปที่ต้นธารของหลักวิชา นั่นคือ ธาตุสี่ นั่นเอง

การแบ่งบุคลิกภาพของคนตามหลักธาตุสี่นั้น เราพอสรุปโดยย่อด้วยการแบ่งออกเป็น 2 แกน นั่นคือ แกนเชิงรุก-เชิงรับ และแกนเน้นเหตุผล-เน้นความรู้สึก จากแกนทั้งสอง เราก็สามารถแบ่งคนได้เป็น 4 ประเภท ดังนี้

         จากนั้น เราสามารถอธิบายจุดเด่น จุดด้อย วิธีการนำเสนอ สไตล์การเจรจาต่อรอง ข้อพึงระวัง สไตล์การลงทุน รวมถึงตัวอย่างนักลงทุนชื่อดังในแต่ละธาตุ ได้ดังนี้

นักลงทุนธาตุไฟ

  • เชิงรุก – เน้นความรู้สึก
    • กระตือรือร้น ขยายตัว มีชีวิตชีวา
    • บุกเบิก ริเริ่ม
    • โดดเด่น เป็นผู้นำ
  • จุดเด่น
    • มีความเป็นผู้นำ ชักชวนคนอื่นเก่ง ทำงานเร็ว ตัดสินใจเร็ว กล้าเสี่ยง
  • จุดด้อย
    • เร่งรีบเกินไป จนสะเพร่า ทำงานไม่เสร็จ เผด็จการ แข็งกร้าว อีโก้สูง
  • การนำเสนอ
    • ธาตุไฟเป็นนักพูด สร้างแรงบันดาลใจ แกมบังคับ
    • สื่อสารทางเดียว
    • เป็นนักพูดที่ดี แต่มักไม่ใช่นักฟังที่ดี
  • สไตล์การเจรจาต่อรอง
    • ชอบเอาชนะ
    • Win-Lose Scenario
  • ข้อพึงระวัง
    • ไม่ต้องการเป็นผู้แพ้
  • สไตล์การลงทุน
    • ตัดสินใจลงทุนด้วยตนเอง ไม่เชื่อใครง่ายๆ
    • บทวิเคราะห์เป็นเพียงข้อมูลประกอบ ส่วนใหญ่อ่านแต่ Highlights ไม่ได้อ่านละเอียด
  • • ตัวอย่างนักลงทุนชื่อดัง ธาตุไฟ
    • เซอร์ จอห์น เทมเปิลตัน (ผู้ก่อตั้งกองทุนเทมเปิลตัน และบุกเบิกการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ)

นักลงทุนธาตุดิน

  • เชิงรับ – เน้นเหตุผล
    • นักปฏิบัติ แก้ปัญหา ไม่เพ้อฝัน
    • อดทน มุ่งมั่นสู่เป้าหมาย
    • อนุรักษ์นิยม ยืนหยัด
  • จุดเด่น
    • มีความรับผิดชอบสูง ทำให้เกิดผลงานจริง
  • จุดด้อย
    • ไม่หยืดหยุ่น ต่อต้านการเปลี่ยนแปลง เข้าควบคุม ขาดแรงบันดาลใจ
  • การนำเสนอ
    • เน้นข้อมูล สถิติ การวิเคราะห์
    • สื่อสารทางเดียว
    • พูดแต่เนื้อหา ฟังคนอื่นแต่ไม่ค่อยแสดงแสดงอารมณ์ร่วม
  • สไตล์การเจรจาต่อรอง
    • เน้นที่องค์กร มากกว่าตัวบุคคล, ‘We’ form
    • เป็นไปตามกฎ ตรงไปตรงมา
  • ข้อพึงระวัง
    • กลัวความล้มเหลว
  • สไตล์การลงทุน
    • รอบคอบ ซื้อขายไม่บ่อย
    • ไม่ชอบเสี่ยง
    • อ่านข้อมูลโดยละเอียด วิเคราะห์อย่างรอบคอบ
  • ตัวอย่างนักลงทุนชื่อดัง ธาตุดิน
    • วอเรน บัฟเฟตต์ (CEO เบิร์กไชร์ ฮาร์ธาเวย์)

นักลงทุนธาตุลม

  • เชิงรุก – เน้นเหตุผล
    • เน้นระบบ ใช้ตรรกะและความรู้ ไม่ใช้อารมณ์ความรู้สึก
    • ชอบพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น
    • Perfectionist
  • จุดเด่น
    • เน้นเหตุผล ความรู้ ความยุติธรรม
  • จุดด้อย
    • มองข้ามความรู้สึกของคน, NATO  (No Actions, Talk Only)
  • การนำเสนอ
    • เน้นการอ้างทฤษฎี หลักการ ความรู้
    • สื่อสารสองทาง ต้องการ Feedback
    • มักตั้งสมมติฐาน “What if..?”
  • สไตล์การเจรจาต่อรอง
    • เน้นความร่วมมือ ประสานประโยชน์
    • Win-Win Scenario
  • ข้อพึงระวัง
    • ไม่ชอบอยู่นิ่ง ไม่ชอบการเอาเปรียบ
  • สไตล์การลงทุน
    • เน้นระบบ มากกว่าดุลยพินิจ
    • คิดกลยุทธ์หลายๆทาง ไม่ปักใจทางเดียว
  • ตัวอย่างนักลงทุนชื่อดัง ธาตุลม
    • จิม โรเจอร์ (อินเดียน่า โจนส์แห่งโลกการเงิน)

นักลงทุนธาตุน้ำ

  • เชิงรับ – เน้นความรู้สึก
    • ความคิดสร้างสรรค์ ศิลปะ
    • อ่อนไหว ดูแลเอาใจใส่ความรู้สึกผู้คน
    • ใช้สัญชาตญาณนำทาง
  • จุดเด่น
    • มีความคิดสร้างสรรค์ ปรับตัวได้ง่าย เข้าใจคน
  • จุดด้อย
    • ไม่มีระบบ ไม่สนกฎเกณฑ์ เน้นความสัมพันธ์มากกว่าระบบ
  • การนำเสนอ
    • เน้นความประทับใจ สร้างอารมณ์ร่วม
    • นำเสนอความคิดสร้างสรรค์
  • สไตล์การเจรจาต่อรอง
    • เน้นความสัมพันธ์ส่วนบุคคล หรือความพอใจ
    • นำไปสู่ข้อตกลงที่เหนือกว่าสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษร
  • ข้อพึงระวัง
    • ไม่ต้องการถูกมองข้าม
  • สไตล์การลงทุน
    • เชื่อคำแนะนำจากที่ปรึกษาที่ไว้ใจ
    • ลงทุนในสิ่งที่ตนเองรัก
  • ตัวอย่างนักลงทุนชื่อดัง ธาตุน้ำ
    • รูเพิร์ต เมอร์ดอค (เจ้าของกิจการสื่อมวลชนระดับโลก NewsCorp)
    • โฮเวิร์ด ชูลทซ์ (ผู้ก่อตั้ง Starbucks)

แนวทางการนำความรู้เรื่องนี้ไปใช้ก็คือ นำดวงชะตาของผู้ที่เราจะวิเคราะห์มาดูว่า ธาตุอะไรเป็นธาตุที่เด่นในดวงชะตา เราก็พอจะทราบว่านักลงทุนคนนั้นมีแนวโน้มที่จะมีนิสัยการลงทุนแบบใด หลักสำคัญคือ เสริมจุดแข็ง ปิดจุดอ่อน เช่น นักลงทุนธาตุไฟ มีจุดเด่นคือ การตัดสินใจที่ฉับไว ไม่รีรอ ทำให้ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้ดี แต่มักขาดความรอบคอบ หรือตัดสินใจไปด้วยความรู้สึกเป็นสำคัญ ก็ต้องหาทางปิดจุดด้อยตรงนี้ด้วยหลากหลายวิธี เช่น อาจหาที่ปรึกษาธาตุดินและธาตุลมมาช่วยให้ข้อมูลก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไป เป็นต้น

บทความนี้ยังเป็นเพียงแนวทางเบื้องต้นสำหรับผู้สนใจ การนำความรู้นี้ไปใช้งานจริงจำเป็นต้องอาศัยความรู้อื่น เทคนิคต่างๆ และประสบการณ์มาประกอบกันเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผมเองนำความรู้เหล่านี้มาใช้ประกอบการลงทุนของตนเองมาโดยตลอด แม้ว่าผลการลงทุนยังไม่ได้โดดเด่นในระดับที่จะอ้างได้ว่าเป็นเซียนการลงทุน แต่ก็ได้รับผลตอบแทนที่ค่อนข้างดี อย่างไรก็ตาม ผมยังคงใช้พอร์ตการลงทุนส่วนตัวเป็นห้องทดลองความรู้ที่ค้นคว้ามาต่อไป เพื่อวันหนึ่งอาจกล่าวได้ว่า ผลตอบแทนจากการลงทุนที่เป็นเลิศนั้นมาจากความรู้ทางโหราศาสตร์เช่นกัน