ออกแบบอัญมณีตามดวงประจำปี

โดย พัลลาส Pallas@horauranian.com
11 มกราคม 2562

ทุก ๆ ปี เมื่อถึงวันเกิดของภรรยา ผมก็จะหาของขวัญให้กับภรรยาตามนิสัยสามีที่ดี เพราะการเลือกของขวัญให้ภรรยานั้นเป็นศิลปะอย่างยิ่งที่ผู้ชายต้องเรียนรู้ไว้เพื่อชีวิตครอบครัวที่มีความสุข

ปีก่อน ๆ ผมได้เลือกอัญมณีตามราศีเกิดของภรรยา แล้วทำเป็นเครื่องประดับ เช่น กำไล ต่างหู แหวน โดยออกแบบให้เข้าชุดกัน ภรรยาผมเกิดในราศีธนู ตำราอัญมณีสายโหราศาสตร์สากลบอกว่า อัญมณีประจำราศีธนู คือ เทอร์ควอยส์ (Turqouise), เพทายสีฟ้า (Blue Zircon) และ ลาพิซ ลาซูรี (Lapis Lazuri) ด้วยความชอบส่วนตัว ผมจึงเลือกเพทาย ทำเป็นเครื่องประดับให้ภรรยา

มาปีนี้ ผมคิดว่า อยากทำอะไรให้พิเศษกว่าปีก่อน ๆ และด้วยความเป็นนักโหราศาสตร์ ผมก็จะดูดวงชะตาวันเกิดของภรรยา เพื่อดูความเป็นไปในปีหน้าของเธอ วิธีนี้เรียกว่า ดวงทินวรรษ (Solar Return) ซึ่งเป็นดวงที่คำนวณ ณ วันเวลาที่ดวงอาทิตย์โคจรมาตำแหน่งเดียวกับขณะเกิด ซึ่งก็คือดวงวันเกิดนั่นเอง โดยในแต่ละปี วันเวลาอาจจะไม่ตรงกับวันเกิดทีเดียว เพราะเรายึดที่ตำแหน่งดวงอาทิตย์ ไม่ได้ยึดตามวันเกิดตามปฏิทินทั่วไป

ผมพบว่า ดวงทินวรรษของภรรยาคราวนี้ มีจุดเด่นอยู่ที่ ดาวพฤหัส ดาวแห่งความสำเร็จ กำลังกุมอยู่กับดวงอาทิตย์ (เจ้าชะตา) และดาวพุธ (การสื่อสาร) ในราศีธนู พอดี นั่นแปลว่า ปีที่จะถึงนี้ เป็นปีที่เธอจะมีโชคดีรออยู่ ผมจึงเกิดไอเดียขึ้นมาว่า ไหน ๆ ดวงจะดีแล้ว เธอน่าจะได้ใส่เครื่องประดับที่เสริมดวงประจำปีเธอไปเลย

ขออธิบายขยายความตรงนี้เพิ่มเติมว่า เรื่องอัญมณีในโหราศาสตร์นี้ ถือได้ว่า เป็นหลักวิชาที่มีความหลากหลายอย่างมาก แต่ละตำราก็จัดอัญมณีประจำราศีไม่ตรงกัน ยิ่งพอผมอยากหาอัญมณีแทนดาวด้วยแล้ว ยิ่งมีความแตกต่างเพิ่มขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม ผมได้ศึกษาเรื่องนี้มานานพอสมควร ทำความเข้าใจเหตุผลที่มาที่แต่ละตำราจัดให้อัญมณีแทนราศีแทนดาว และได้ผสมผสานตำราหลาย ๆ เล่มเข้าด้วยกัน จนเป็นแนวทางของตนเองขึ้นมา

บทกลอนของไทย ที่พูดถึง รัตนชาตทั้งเก้า หรือ นพรัตน์ ได้แต่งไว้ดังนี้ “เพชรดีมณีแดง เขียวใสแสงมรกต เหลืองใสสดบุษราคัม แดงแก่ก่ำโกเมนเอก สีหมอกเมฆนิลกาฬ มุกดาหารหมอกมัว แดงสลัวเพทาย สังวาลย์สายไพฑูรย์” และหากเราต้องการทราบว่า นพรัตน์ นี้ รัตนะไหนหมายถึงดาวอะไร ก็ต้องตามไปอ่านจาก คัมภีร์ปาริชาตชาดก ซึ่งเป็นคัมภีร์โหราศาสตร์ของอินเดีย ที่กล่าวถึง รัตนชาติ หรืออัญมณีประจำดวงดาว เอาไว้ว่า “ทับทิมบริสุทธิ์ เป็นรัตนของอาทิตย์ ไข่มุกที่ขาวบริสุทธิ์โดยแท้ธรรมชาติ เป็นรัตนของจันทร์ ปะการังแก้วประวาล เป็นรัตนของอังคาร มรกต เป็นรัตนของพุธ บุษราคัม เป็นรัตนของพฤหัสบดี เพชร เป็นรัตนของศุกร์ ไพลิน เป็นรัตนของเสาร์ โกเมนเอก เป็นรัตนของราหู และไพฑูรย์ เป็นรัตนของเกตุฯ”  ดังนั้น จากตำราของไทยที่ได้รับอิทธิพลจากอินเดีย อัญมณีประจำดาวพฤหัสก็คือ บุษราคัม (Yellow Sapphire)

ผมจึงเลือก บุษราคัม เป็นอัญมณีหลักสำหรับของขวัญชิ้นนี้ เพราะต้องการเน้นที่ ดาวพฤหัส ดาวแห่งความสำเร็จ ที่กำลังโคจรมากุมกับดาวอาทิตย์ของภรรยา

img_2799คราวนี้ก็มาคิดต่อว่า จะเอามาทำเป็นเครื่องประดับชิ้นไหน ปรากฏว่า ดาวพฤหัส กุม ดาวพุธ อยู่ ดาวพุธนั้นหมายถึง การสื่อสาร การเรียนรู้ การให้เหตุผล การพูด และการฟัง คำว่า พหูสูต ที่แปลว่า ผู้รู้ นั้น คำว่า สูต ก็มาจากคำว่า สุตะ ที่แปลว่า การฟัง ซึ่งอวัยวะสำคัญในการฟังก็คือ หู ผมจึงเลือกที่จะทำเครื่องประดับเป็น ต่างหู เพื่อให้แทนความหมายของ ดาวพุธ ที่กุมกับดาวอาทิตย์และดาวพฤหัสในดวงทินวรรษ

ตอนนี้ก็ยังมีดาวอาทิตย์อีกปัจจัย ที่อยู่ในชุดนี้ ในทางโหราศาสตร์ ดาวอาทิตย์ ก็คือ ดวงตา เพราะแสงจากดวงอาทิตย์ทำให้เรามองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ ผมจึงออกแบบให้ ต่างหู คู่นี้ มีรูปทรงคล้ายกับดวงตา

สรุปก็คือ ผมเลือกปัจจัยเด่นจากดวงทินวรรษของภรรยา คือ อาทิตย์ พุธ และพฤหัส กุมกันอยู่ มาออกแบบเครื่องประดับ นั่นคือ ต่างหู (ดาวพุธ) ที่ทำจากบุษราคัม (ดาวพฤหัส) ซึ่งมีลักษณะคล้ายดวงตา (ดาวอาทิตย์)  เป็นของขวัญวันเกิดสำหรับภรรยา เพื่อเสริมดวงประจำปีนี้ของเธอให้ เจ้าชะตา (อาทิตย์) มีความสำเร็จ (พฤหัส) จากปัญญา (พุธ) นั่นเอง

 

ไพ่เด็กเหรียญ: ทำให้เต็มที่แล้วจะสมปรารถนา

โดย อาจารย์ กามล แสงวงศ์

มีลูกค้ารายหนึ่งอายุ 26 ปี เขาทำงานที่ไหนก็ไม่ถูกใจ จนตัวเองสิ้นหวัง สิ้นกำลังใจ ทำงานไปวัน ๆ ซังกะตาย

tarot-pentacles-11เขาถามว่าเมื่อไหร่เขาจะได้งานดี ๆ ที่เงินเดือนสูง ๆ มีอนาคต เพื่อนร่วมงานดี เจ้านายไม่เห็นแก่ตัวสักที

ผมบอกเขาว่า ถ้าเขาได้งานดีๆแล้วทำงาน เช้าชามเย็นชามอย่างนี้ก็คงไม่รอด เขาบอกว่า ถ้าเขาได้งานดี ๆ นะ เขาจะทุ่มเทสุดชีวิตเชียว
จริง ๆ นะ เขาเอ่ยย้ำและจ้องตาผม

ผมเลยบอกเขาว่า ในโลกนี้ไม่มีหรอก งานดี ๆ น่ะ มันมีแต่งานยาก ๆ งานที่ทำแล้วไม่คุ้มค่าแรง งานที่มีปัญหาเยอะ งานที่เครียด งานที่ไม่อยากทำ งานที่ทำไปก็ไม่มีคนชื่นชมยกย่อง

เพราะเจ้าของเงินเขาชอบจ้างคน มาทำงานที่เขาไม่ชอบแทนเขา ไม่งั้นเขาคงทำเองหมดทุกอย่าง แล้วใครจะจ้างเราเล่า

เราจึงได้แต่ทำงานให้ดีที่สุด ให้เต็มที่สุดชีวิตก่อน หลังจากนั้น…. งานในฝันก็จะตามมาเอง

การที่จะได้งานในฝันก่อน แล้วค่อยจะทุ่มเท มันก็เหมือนกับคำว่า
ต้องสอบได้ที่ 1 ก่อนถึงจะตั้งใจเรียน
ต้องได้เหรียญทองโอลิมปิคก่อนถึงจะขยันซ้อม
ต้องได้รับคำชื่นชมก่อนถึงจะเป็นคนดี
ต้องมีคนจีบก่อนถึงจะทำตัวสวยน่ารัก

ซึ่งมันสวนกระแสสัจธรรม ใครคิดแบบนั้นไม่บ้าก็ทุกข์

คนที่คิดแบบนี้ ส่วนใหญ่มักถูกเลี้ยงมาแบบตามใจ ศัพท์สมัยใหม่เรียกว่า สปอยล์ เหมือนไพ่เด็กเหรียญที่ผม แปลว่าลูกเสี่ย ลูกเสี่ยถูกเลี้ยงมาแบบตามใจสุขสบายจนเคยตัว เวลาเจออะไรยาก ๆ จึงงอแงง่าย เรียกร้อง แต่สิ่งที่สวนทางกับความเป็นจริง แล้วเมื่อไหร่มันจะได้อย่างที่ต้องการ

อย่างลูกค้าคนนี้ก็เช่นกัน ผมจึงอธิบายให้เขาฟังต่อไปว่า ถ้าคุณไม่พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเก่งขึ้น เก่งมากกว่าคนอื่นจนโดดเด่น แล้วที่ทำงานดี ๆ ที่ไหนเขาจะรับคุณ ที่ทำงานดี ๆ เขาก็ต้องรับคนดี ๆ เก่ง ๆ สิ

ดังนั้นผมว่าคุณกลับไปทำงานเดิมนี่แหละ ให้ดีที่สุดให้ยอดเยี่ยมจนโดดเด้งออกมา ชัดเจนจนใคร ๆ เขากล่าวถึง

ถ้าคุณทุ่มเทได้อย่างนี้ งานในฝันก็จะปรากฎขึ้นมาโดยเร็ว และมันต้องเป็นของคุณแน่นอนครับ

ไพ่นักบวชหญิง: เลือกว่าจะดึงดูดพลังด้านบวกหรือลบ

โดย อ.กามล แสงวงศ์
เขียนเมื่อ 3 กันยายน 2016

ในไพ่ยิปซีชุดไรเดอร์เวท มีไพ่ใบหนึ่งที่สามารถดึงดูดเรื่องดีและร้ายเข้ามาในชีวิต โดยใช้อารมณ์และจินตนาการเป็นสื่อ
อารมณ์ดี จินตนาการด้านดี ก็ดึงดูดเรื่องดี ๆ เข้ามา
อารมณ์ไม่ดี จินตนาการด้านลบ ก็ดึงดูดแต่เรื่องไม่ดีเข้ามา

02 II. The High Priestessไพ่ใบนั้นคือไพ่นักบวชหญิง ที่เป็นภาพนักบวชหญิงที่นั่งเหยียบพระจันทร์ สัญลักษณ์แห่งจินตนาการและอารมณ์อันอ่อนไหว ที่นั่งระหว่างเสาสีขาวและสีดำ อันเป็นตัวแทนของความดีความชั่ว อารมณ์ด้านดีกับด้านร้าย พลังด้านบวกกับพลังด้านลบ อันแล้วแต่ใจเราว่าจะเลือกไปอยู่ด้านไหน

คนเราจึงควรระมัดระวังความคิดของตนเอง อย่าคิดลบ อย่าอยู่กับสิ่งแวดล้อมแย่ ๆ เช่น อย่าอยู่กับคนคิดแต่เรื่องร้าย ๆ ชอบสบถ พูดคำด่าคำ อย่าอยู่ในสถานที่ๆเราไม่สบายใจ

ให้อยู่กับคนดี ๆ คิดดี ทำดี พูดดี อยู่ในสถานที่สบายใจ และทำมาหากินดีงามสุจริต เพื่อเสริมให้ชีวิตดึงดูดแต่เรื่องดีๆเข้ามา

เพราะพลังด้านนี้นี่เองที่ทำให้ผมคิดว่า ข่าวในปัจจุบันนี้ควรแยกเวลาให้ชัดเจน เป็นช่วงข่าวดี ช่วงข่าวร้าย เพื่อให้เราเลือกรับเข้ามาได้
ใครเข้มแข็งก็ดูทั้งสองข่าว ใครอยากมีแต่พลังด้านบวกก็ดูแต่ข่าวดี

แต่ถ้าเป็นปัจจุบัน การปิดโทรทัศน์เพื่อที่จะไม่ต้องเสพข่าวร้าย การเลือกอ่านหนังสือดีๆ คุยกับคนที่มีพลังชีวิต มองโลกแง่ดี การสวดมนต์ไหว้พระแผ่เมตตาต่อสรรพสัตว์ การขอพรให้ตนเองและผู้อื่น การชื่นชมยกย่องคนดี ก็ช่วยปรับเปลี่ยนให้เรามีโชคลาภได้เช่นกัน

10 ไม้เท้าแห่งการทุ่มเท

โดย อ.กามล แสงวงศ์
เขียนเมื่อ 13 มกราคม 2016

เมื่อวานมีลูกค้าสาวสวยรวยเก่งมาดูดวง ในดวงของเธอก็ออกมาโดดเด่นในหน้าที่การงานเสียเหลือเกิน แต่น่าแปลกที่ดวงเธอรุ่งโรจน์โชติช่วงชัชวาลขนาดนี้ แต่กลับเหนื่อยเหลือเกินกับความรัก

ไพ่ 10 ไม้เท้าอยู่ตำแหน่งอุปสรรคของเธอ

img_2749

โดยความหมายปกติของไพ่ใบนี้ เราต้องแปลจากรูปภาพของคนที่แบกไม้จำนวนมากเดินทางกลับบ้าน (สงสัยจะเอาไปก่อไฟ)

ด้วยจำนวนมากของมัน ทำให้เขาต้องโซซัดโซเซเดินทางอย่างยากลำบากจนต้องลุ้นว่าจะแบกไปถึงบ้านมั้ยนะ

แล้วเราก็แปลออกมาว่า ช่วงของการทำงานหนัก แบกภาระใหญ่ ทุ่มเทอย่างไม่ลืมหูลืมตา สภาวะที่ต้องอดทนฝ่าฟันไปให้ได้

ระยะเวลาอันยาวนานที่เหน็ดเหนื่อยหนักหน่วง

เมื่อมันมาสถิตอยู่ตำแหน่งอุปสรรคของเธอ

มันจึงแปลว่า ช่วงนี้อุปสรรคของเธอคือ งานหนักมาก จะได้อะไรมาสักอย่างก็ต้องทุ่มเทฝ่าฟันแบบเอาเป็นเอาตาย และต้องอดทนรอคอยด้วย เพราะมันนานกว่าจะสำเร็จ

หลังจากนั้นเธอก็เล่าเรื่องที่เธอไปประทับใจชายคนหนึ่งที่แสนดีมีน้ำใจ จนเธอคิดว่าถ้ามีแฟนเป็นคนแบบนี้น่าจะดีฝากผีฝากไข้ได้ในบั้นปลายชีวิต

ผมจึงบอกเธอว่า ถ้าคิดว่าผู้ชายคนนี้ดีจริง และคุ้มค่าที่จะทุ่มเท ก็จงลุยไปเลย

มันก็ต้องเข้าไปจีบเข้าไปหา ไปทำให้เขารู้ว่าเรารักเขา เราดีมาก เราเหมาะสมกับเขาที่สุดในโลก จงหว่านเสน่ห์ทุกอย่างที่ทำได้ จงขายความดีของเราในทุกๆด้าน ให้เขาได้รับรู้ จงทำอย่างเต็มที่ในเชิงรุก อย่ารอให้เขาเข้ามาเอง

ผมเองนี่ไม่เคยคิดว่าความรักมันมีเพศนะครับ ดังนั้นผมจึงไม่เห็นด้วยว่าถ้าเราเป็นหญิงเราจะต้องรอผู้ชายที่เราชอบมาจีบ

ช่างไร้สาระมาก

เพราะถ้ารอต่อไปก็อาจจะถูกใครชิงตัดหน้าไปก็ได้ ซึ่งอาการหลังจากนั้นก็คือเสียใจว่าทำไมชีวิตของเราถึงอาภัพขนาดนี้

ที่จริงมันอาจจะไม่ได้อาภัพ เพียงแต่เรายังไม่ได้ทำทุกอย่างที่ควรทำ ให้ดีพอ

แล้วถ้ามันไม่สำเร็จล่ะ มันจะเสียแรงเปล่ามั้ย? มันจะเสียใจมากมั้ย? มันจะคุ้มมั้ย?

ไม่มีการทำอะไรที่ไม่มีความเสี่ยงครับ

แต่การไม่ทำอะไรเลยต่างหาก ที่ผลมันมีค่าเท่ากับศูนย์เลยครับ น่าเสียดายมากกว่ามาก

และผมเชื่อว่า ระหว่างทางของการทุ่มเท ถึงแม้คุณจะไม่สำเร็จในที่สุด แต่คุณจะต้องได้อะไรบางอย่าง สถิตอยู่ในร่างกายในจิตใจของคุณแน่นอน

สู้ ๆ นะครับ