โหราศาสตร์ในแฮร์รี่ พอตเตอร์ ตอน 1

โดย พัลลาส Pallas@horauranian.com
เขียนครั้งแรก สิงหาคม 2550
ปรับปรุงเพิ่มเติม 19 พ.ย. 2561

โหราศาสตร์ในแฮร์รี่ พอตเตอร์ ตอน 1 ว่าด้วย บ้านทั้งสี่กับธาตุสี่ และบุคลิกของตัวละครตามราศีเกิด

แฮร์รี่ พอตเตอร์ (Harry Potter) เป็นนวนิยายสำหรับเด็กที่ขายดีที่สุดในโลก ประพันธ์โดย J K Rowling ชาวอังกฤษ นวนิยายเรื่องนี้เป็นนวนิยายชุด มีทั้งหมด 7 ตอน ตั้งแต่วางแผงในประเทศสหราชอาณาจักรครั้งแรกเมื่อปี 2540 ก็ได้สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการหนังสือเด็ก ที่ได้รับการแปลมากกว่า 80 ภาษา และสามารถขายได้กว่า 500 ล้านเล่มทั่วโลก

HarryPotterPoster

เรื่องราวในนวนิยายเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับโลกพ่อมดแม่มด มีการผูกเรื่องไว้อย่างซับซ้อนและสนุกสนาน บ่งบอกถึงความเป็นอัจฉริยะของผู้ประพันธ์ เรื่องราว ชื่อตัวละคร ชื่อสถานที่ และเนื้อหาได้ประมวลความรู้จากหลากสาขาวิชาเข้าด้วยกัน ทั้งประวัติศาสตร์ ปรัชญา จิตวิทยา มนุษยวิทยา อักษรศาสตร์ ดาราศาสตร์ รวมไปถึงโหราศาสตร์อีกด้วย

เมื่อผมอ่านนวนิยายเรื่องนี้ครั้งแรกนั้น ก็อ่านด้วยความเพลิดเพลิน ไม่ได้สังเกตเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับโหราศาสตร์ที่ซ่อนอยู่ ต่อมา เมื่อกลับมาอ่านอีกครั้ง ก็สังเกตพบว่า เจ เค โรว์ลิ่ง ได้ซ่อนประเด็นสำคัญๆที่เกี่ยวข้องกับโหราศาสตร์ไว้ในเนื้อเรื่องอย่างแยบยล แม้ว่าเธอไม่เคยเปิดเผยว่า เธอมีความรู้ทางโหราศาสตร์หรือไม่ แต่เนื้อหาในนวนิยายก็บอกอย่างชัดเจนว่าเธอมีความรู้ทางโหราศาสตร์อยู่พอสมควร ที่สำคัญผมเชื่อว่า นักศึกษาโหราศาสตร์สามารถเรียนรู้โหราศาสตร์จาก นวนิยายเรื่องนี้ได้ไม่น้อยเช่นกัน

บทความนี้ผมตั้งใจที่จะหยิบยกประเด็นทางโหราศาสตร์ที่ผมสังเกตพบจากนวนิยายเรื่องนี้ บางเรื่องเมื่อค้นในอินเตอร์เน็ตแล้วพบว่ามีคนกล่าวถึงอยู่บ้าง แต่มีส่วนที่ผมไม่เห็นด้วยในรายละเอียด ซึ่งผมถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีความเห็นแตกต่างกัน การพูดคุยถกเถียงในเรื่องทำนองนี้มักจะทำให้ผู้ร่วมเสวนาได้รับความรู้มากขึ้นอยู่เสมอ

ประเด็นที่ 1: บ้านทั้งสี่ในโรงเรียนฮอกวอตส์

ฉากสำคัญของเรื่องนี้คือ โรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ (Hogwarts School of Witchcraft and Wizardry) ซึ่งตัวละครหลักคือแฮร์รี่ พอตเตอร์ เรียนอยู่ที่นั่น โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนประจำ ซึ่งตามธรรมเนียมแล้วจะต้องแบ่งนักเรียนออกเป็นบ้าน สำหรับฮอกวอตส์นั้นแบ่งเป็น 4 บ้าน ได้แก่ กริฟฟินดอร์ (Gryffindor), ฮัฟเฟิลพัฟ (Hufflepuff), เรเวนคลอ (Ravenclaw) และสลิธีริน (Slytherin) ในแต่ละปี เมื่อโรงเรียนเปิดเทอม นักเรียนใหม่จะได้รับการคัดสรรเข้าบ้านแต่ละบ้านโดยการสวมหมวกคัดสรร (Sorting Hat) ลงบนศีรษะ และหมวกคัดสรรจะตัดสินใจเลือกบ้านให้กับเด็กแต่ละคน

ในแต่ละปี หมวดคัดสรรจะร้องเพลงที่เป็นการอธิบายคุณสมบัติต่างๆที่บ้านทั้งสี่ของฮอกวอตส์ต้องการ หากนักโหราศาสตร์อ่านคุณสมบัติของแต่ละบ้านดีๆก็จะพบว่า บ้านทั้งสี่ก็คือตัวแทนของธาตุทั้งสี่หรือมหาภูตรูป ไฟ ดิน ลม น้ำ นั่นเอง เราลองทวนบทเพลงของหมวกคัดสรรจากภาคแรกดูนะครับ

“..เธออาจไปอยู่บ้านกริฟฟินดอร์ ซึ่งเป็นหอของผู้กล้าหัวใจสิงห์
ชอบท้าทายเป็นวีรบุรุษยิ่ง นี่คือสิ่งสัญลักษณ์กริฟฟินดอร์
ฮัฟเฟิลพัฟอาจเป็นแห่งที่เธอไป บ้านนี้ไว้คนทนไม่ย่อท้อ
ยุติธรรมภักดีไม่รีรอ ไม่สอพลอไม่เกี่ยงงานวานก็ทำ
พวกฉลาดไปอยู่เรเวนคลอ บ้านนี้ขอคนเก่งพูดขันขำ
อีกเรียนรู้วิชาการเป็นประจำ สิ่งสำคัญคือต้องมีความรู้ดี
หรือเธออาจไปอยู่สลิธีริน ซึ่งเป็นถิ่นพบมิตรแท้ชีวิตนี่
ฉลาดโกงใช้ทุกยุทธวิธี ให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ใจต้องการ..”

หลังจากอ่านนิยายเรื่องนี้หลายๆรอบ ผมได้สังเกตและตั้งสมมติฐานว่า บ้านกริฟฟินดอร์ มีลักษณะของธาตุไฟ บ้านฮัฟเฟิลพัฟมีลักษณะของธาตุดิน บ้านเรเวนคลอมีลักษณะของธาตุลม และบ้านสลิธีรินมีลักษณะของธาตุน้ำ จากนั้นผม ได้รวบรวมคุณลักษณะของบ้านแต่ละหลังได้ดังนี้

กริฟฟินดอร์

  • บุคลิก: กล้าหาญ
  • สัตว์ประจำบ้าน: สิงโต
  • สี: แดง และ ทอง
  • อาจารย์ประจำบ้าน: มิเนอร์ว่า มักกอนนากัล

ฮัฟเฟิลพัฟ

  • บุคลิก: อดทน
  • สัตว์ประจำบ้าน: แบดเจอร์
  • สี: เหลือง และ ดำ
  • อาจารย์ประจำบ้าน: โพโมน่า สเปราต์

เรเวนคลอ

  • บุคลิก: ฉลาด
  • สัตว์ประจำบ้าน: อินทรี
  • สี: น้ำเงิน และ บรอนซ์
  • อาจารย์ประจำบ้าน: ฟิลิอัส ฟลิตวิก

สลีธิริน

  • บุคลิก: มีเล่ห์เหลี่ยม
  • สัตว์ประจำบ้าน: งู
  • สี: เขียว และ เงิน
  • อาจารย์ประจำบ้าน: เซเวอร์รัส สเนป

เริ่มจากบ้านกริฟฟินดอร์ ซึ่งมีตัวละครหลักของเรื่องทั้งสามคนอยู่ในบ้านหลังนี้ คือ แฮร์รี่ พอตเตอร์, รอน วีสลีย์และ เฮอร์ไมโอนี เกรนเจอร์ จุดเด่นของบ้านนี้คือมีความกล้าหาญ ชอบผจญภัย และไม่ได้อยู่ในกรอบกติกาซักเท่าไหร่ (พูดง่ายๆคือชอบแหกกฎนั่นเอง) ที่สำคัญคือมักเป็นบ้านที่ได้รับรางวัลบ้านดีเด่นประจำปีอยู่เสมอ ลักษณะเหล่านี้ตรงกับราศีธาตุไฟ หรือราศีเมษ สิงห์ ธนู ซึ่งอาจารย์วิโรจน์ได้สรุปไว้ว่า “รุก บุกเบิก ขยาย” สำหรับสัตว์ประจำบ้านของกริฟฟินดอร์นั้นคือสิงโต ซึ่งก็ชัดเจนว่าหมายถึง ราศีสิงห์ ส่วนศาสตราจารย์มักกอนนากัล อาจารย์ประจำบ้านกริฟฟินดอร์นั้นเป็นอาจารย์สอนวิชาแปลงร่าง ที่มีลักษณะเด่นคือ อยากให้บ้านที่ตนเองดูแลอยู่ชนะการแข่งขันกีฬาควิดดิช (ด้วยความยุติธรรม) ซึ่งการแข่งขันกีฬาก็หมายถึงราศีสิงห์นั่นเอง (อย่างไรก็ตามเนื่องจากศาสตราจาย์มักกอนนากัลเกิด 4 ต.ค. ราศีตุล จึงมีลักษณะของความเป็นผู้รักความยุติธรรมและสมานฉันท์ปนอยู่ด้วย)

ธาตุดิน หรือบ้านฮัฟเฟิลพัฟ เป็นบ้านที่ดูจะเงียบๆ ไม่มีตัวละครที่เด่นมากนัก บุคลิกของบ้านนี้คือความอดทนมานะพยายาม ซึ่งตรงกับลักษณะของธาตุดิน ที่มีลักษณะของความมั่นคง อุตสาหะ จริงจัง สงบเสงี่ยม ตัวละครในเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ที่เด่นที่สุดของบ้านนี้คือ เซดริก ดิกกอรี่ ตัวแทนของฮอกวอตส์ที่เข้าแข่งขันประลองเวทไตรภาคีร่วมกับแฮร์รี่ในภาคที่สี่ คำบรรยายบุคลิกของเซดริกที่ดีและตรงกับธาตุดินมากที่สุด น่าจะมาจากคำพูดของศาสตราจารย์ดับเบิลดอร์ อาจารย์ใหญ่ที่ว่า “..เซดริกเป็นบุคคลตัวอย่างที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงคุณสมบัติมากมายหลายประการที่ทำให้บ้านฮัฟเฟิลพัฟโดดเด่น เขาเป็นเพื่อนที่ดีและไม่เปลี่ยนแปรเป็นอื่น เขาขยันและเห็นคุณค่าของการเล่นตามกฎกติกา..” เมื่อเรามาพิจารณาสัตว์ประจำบ้านฮัฟเฟิลพัฟคือตัวแบดเจอร์ (Badger) ซึ่งเป็นสัตว์ที่ชอบขุดรูอยู่ในดิน ก็จะเห็นได้ชัดเจนว่าหมายถึงธาตุดินนั่นเอง สำหรับอาจารย์ประจำบ้านนั้นคือ ศาสตราจารย์สเปราต์ อาจารย์ผู้สอนวิชาสมุนไพรศาสตร์ (เกิด 15 พ.ค. ราศีพฤษภ ธาตุดิน) ที่สอนนักเรียนเกี่ยวกับการปลูกต้นไม้และพืชสมุนไพรซึ่งก็เกี่ยวข้องกับดินอีกเช่นเคย พอมาในเรื่อง Fantastic Beasts ตัวเอกของเรื่อง นิวท์ สคามันเดอร์ ผู้เขียนหนังสือ สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสัตว์วิเศษ ตอนเป็นนักเรียนก็อยู่บ้านฮัฟเฟิลพัฟ สมกับบุคลิกความสนใจของเขา

บ้านเรเวนคลอ บ้านของคนฉลาด ชอบเรียนรู้ ตรงกับลักษณะของธาตุลมที่อาจารย์ประยูรได้ให้คุณสมบัติไว้ว่า “ชอบเรียนรู้ รวดเร็ว มีความสามารถในการปรับตนให้เข้ากับเหตุการณ์” สัญลักษณ์ประจำบ้านคือ นกอินทรี ซึ่งเป็นนกที่แข็งแรง บินเร็ว และมองได้ไกล การที่มีสัตว์ประจำบ้านเป็นนกที่บินอยู่ในอากาศเป็นการสะท้อนถึงความเป็นธาตุลมของบ้านหลังนี้เช่นกัน อาจารย์ประจำบ้านคือศาสตราจารย์ฟลิตวิก อาจารย์สอนวิชาเวทมนตร์คาถา (เกิด 17 ต.ค. ราศีตุล ธาตุลม) เป็นพ่อมดตัวเล็กที่ต้องยืนบนตั้งหนังสือจึงจะสูงพ้นโต๊ะเล็กเชอร์ แต่ความสามารถด้านเวทมนตร์อยู่ในระดับแนวหน้า เคยชนะการแข่งขันดวลเวทมนตร์สมัยยังหนุ่ม แสดงถึงความสามารถในการปรับตัวของศาสตราจารย์ฟลิตวิกที่แม้จะตัวเล็กแต่ก็พัฒนาความสามารถด้านเวทมนตร์มาชดเชยความด้อยทางร่างกายได้อย่างยอดเยี่ยม

บ้านหลังสุดท้ายซึ่งผมเชื่อว่าเป็นธาตุน้ำ ค่อนข้างโชคร้ายเพราะเจ เค โรว์ลิ่ง วางตัวละครตัวร้ายไว้ในบ้านหลังนี้ เช่น โวลเดอมอร์, มัลฟอย ฯลฯ ดังนั้น ลักษณะที่ปรากฏออกมาจึงเป็นไปในทางลบเป็นส่วนใหญ่ (นักศึกษาโหราศาสตร์ต้องระลึกว่านี่เป็นนวนิยาย ย่อมสร้างบทบาทตัวละครให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ฝ่ายไหนคือฝ่ายดี ฝ่ายไหนคือฝ่ายร้าย ดังนั้น หากจะนำไปใช้พยากรณ์จริงก็อย่าลืมด้านบวกของธาตุน้ำด้วย) หมวกคัดสรรระบุลักษณะของเด็กที่เข้าบ้านสลิธีรินไว้ว่า เป็นคนที่มุ่งความสำเร็จ บรรลุเป้าหมาย โดยไม่สนใจวิธีการ หรือเรียกว่า ฉลาดแกมโกง ลักษณะของธาตุน้ำในทางโหราศาสตร์ ได้แก่ ช่างคิดช่างฝัน ลึกซึ้ง มีความรู้สึกไว เจ้าอารมณ์ ลึกลับ ดังนั้น การที่บ้านสลิธีรินมี งู เป็นสัญลักษณ์อันหมายถึงความลึกลับ จึงสะท้อนลักษณะของธาตุน้ำ อาจารย์ประจำบ้านสลิธีรินคือ ศาสตราจารย์ เซเวอรัส สเนป อาจารย์ประจำวิชาการปรุงยา (เกิด 9 ม.ค. ราศีมกร ธาตุดิน ซึ่งส่งผลให้สเนปเป็นคนจริงจัง แทบไม่เคยพูดเล่นเลย) ลักษณะเด่นของสเนปคือ ความเจ้าคิดเจ้าแค้นที่มีต่อพ่อของแฮร์รี่ และความลึกลับที่ไม่ทราบว่าเขาอยู่ฝ่ายดับเบิลดอร์หรือฝ่ายโวลเดอมอร์กันแน่ (ตอนนี้เฉลยแล้วว่า สเนป คือผู้มีความรักลึกซึ้งต่อ ลิลี่ เอฟเวนส์ แม่ของแฮร์รี่ และเสียสละได้ทุกอย่างเพื่อให้แฮร์รี่ ลูกชายของลิลี่ ปลอดภัย แม้กระทั่งชีวิตของตน แปลว่าในดวงของสเนป ถ้าคำนวณกันจริงๆ น่าจะมีราศีพิจิกเด่น) เท่าที่ผมสังเกตพบว่า ลักษณะของบ้านสลิธีรินจะมาจากด้านลบของราศีพิจิกและราศีมีนเป็นหลัก ส่วนราศีกรกฎมีอิทธิพลค่อนข้างน้อย

มีบทความ “Harry Potter and the Astrologer’s Chart” โดย Neil Spencer ในเว็บไซต์ของสมาคมโหราศาสตร์แห่งเกรทบริเตน (The Astrological Association of Great Britain) กล่าวถึงเรื่องบ้านทั้งสี่ว่ามาจากราศีทวารทั้งสี่คือ เมษ-กริฟฟินดอร์, กรกฎ-ฮัฟเฟิลพัฟ, ตุล-เรเวนคลอ และมกร-สลิธีริน ซึ่งผมไม่เห็นด้วยเนื่องจากลักษณะเด่นของบ้านฮัฟเฟิลพัฟคือความอดทน มานะพยายาม และความภักดี ซึ่งไม่ตรงกับราศีกรกฎที่หมายถึงความอ่อนไหว อ่อนโยน และเต็มไปด้วยความรู้สึก จึงขออนุญาตนำมาบันทึกความเห็นไว้เพื่อให้ผู้อ่านได้ลองพิจารณาต่อไป

ประเด็นที่ 2: บุคลิกของตัวละครตามวันเกิด

ในนิยายเรื่องนี้ เจ เค ได้สอดแทรกข้อมูลวันเกิดของตัวละครสำคัญๆไว้เป็นระยะ นอกจากนั้นสำหรับตัวละครบางคนที่เธอไม่ได้ระบุในนวนิยาย เธอได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในเว็บไซต์ของเธอ, การให้สัมภาษณ์ หรือกิจกรรมพบปะแฟนๆแฮร์รี่ จากการรวบรวมข้อมูลดังกล่าว ทำให้ผมเชื่อว่า เจ เค มีความรู้โหราศาสตร์อยู่พอสมควร โดยเฉพาะลักษณะของคนตามราศีที่ดวงอาทิตย์สถิต (Sun Sign) เพราะเธอสามารถบรรยายขยายความลักษณะของตัวละครแต่ละคนได้สอดคล้องกับโหราศาสตร์ ซึ่งนักศึกษาโหราศาสตร์สามารถเรียนรู้ความหมายของแต่ละราศีได้จากนวนิยายเรื่องนี้แน่นอน ทั้งนี้ มีเว็บไซต์โหราศาสตร์บางแห่งได้ผูกดวงชะตาของตัวละครขึ้นมาเพื่ออธิบายเรื่องราวในนวนิยายกับดวงชะตา แต่ผมขออนุญาตข้ามเรื่องดวงชะตาไป เพราะผมไม่คิดว่า เจ เค จะผูกดวงชะตาของตัวละครแต่ละคนเพื่อเขียนนวนิยายเรื่องนี้ออกมา และถึงคำนวณได้ก็ไม่น่าจะเป็นประโยชน์กับนักศึกษาโหราศาสตร์สักเท่าไหร่

เริ่มต้นด้วยแฮร์รี่ พอตเตอร์ พระเอกของเรื่อง วันเกิดของแฮร์รี่ของวันที่ 31 กรกฎาคม (วันเดียวกับวันเกิดของเจ เค โรว์ลิ่ง) ตรงกับราศีสิงห์ ราศีของผู้นำ บุคคลผู้มีชื่อเสียง ซึ่งตรงกับแฮร์รี่อย่างยิ่ง เพราะแฮร์รี่โด่งดังในโลกของพ่อมดแม่มดในนามของเด็กชายผู้รอดชีวิต ตั้งแต่อายุเพียง 1 ขวบเท่านั้น ในด้านความเป็นผู้นำนั้น ด้วยความเป็นพระเอกของเรื่อง แฮร์รี่จะเป็นผู้นำของกลุ่มเพื่อนๆในทุกๆภาค ไม่ว่าจะมีใครให้ความเห็นหรือคำแนะนำอย่างไร แฮร์รี่จะเป็นคนตัดสินใจขั้นสุดท้ายเสมอ ความเป็นสิงห์ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ความกล้าหาญ แฮร์รี่ไม่เคยกลัวในภยันตรายใดๆ แม้ว่าเขาจะเป็นเป้าหมายสำคัญที่จะทำลายของลอร์ดโวลเดอมอร์ เขาตรงเข้าต่อสู้อย่างกล้าหาญเสมอ นอกจากนั้น แฮร์รี่ไม่ชอบการถูกบังคับหรืออยู่ในกฎเกณฑ์ ยามใดที่เขาถูกขีดเส้นให้อยู่ในกรอบ ขาดความอิสระ เขาจะออกอาการหัวเสีย หงุดหงิด ซึ่งเราเห็นได้ชัดในภาค 5 ภาคีนกฟีนิกซ์ เมื่อศาสตราจารย์อัมบริดจ์ได้ตั้งกฎเกณฑ์ขึ้นมาในโรงเรียนอย่างมากมาย แฮร์รี่ไม่สามารถทนอยู่ในกรอบเช่นนั้นได้ พยายามแหกกฎจนถูกลงโทษ และจับมือกับเพื่อนๆตั้งกองทัพดัมเบิลดอร์ขึ้นมาอย่างลับๆเพื่อต่อต้านอำนาจของอัมบริดจ์ แง่ลบของความเป็นสิงห์ในตัวแฮร์รี่แสดงให้เห็นชัดเจนในภาค 5-7 เมื่อเขาจะแสดงอาการหงุดหงิดฉุนเฉียวอยู่เสมอ เมื่อถูกตีกรอบหรือปิดกั้น แม้ว่ากรอบเหล่านั้นจะมาจากคนที่รักเขาอย่างดับเบิลดอร์ก็ตาม ในด้านความต้องการเอาชนะของสิงห์นั้น เจเค โรว์ลิ่งได้สอดแทรกเอาไว้อย่างกลมกลืน ในภาค 5 ภาคีนกฟีนิกซ์ เมื่อแฮร์รี่ทราบข่าวว่าทั้งรอนและเฮอร์ไมโอนีได้รับการแต่งตั้งเป็นพรีเฟ็คหรือหัวหน้านักเรียน แทนที่เขาจะรู้สึกดีใจที่เพื่อนรักได้รับตำแหน่ง เขากลับรู้สึกไม่พอใจเพราะเขาคาดหวังว่าควรจะเป็นเขาที่ได้รับตำแหน่งดังกล่าว เพราะเขาคิดว่าเขาดีกว่าคนอื่นๆ “..ฉันทำอะไรมากกว่าแน่ๆ ฉันทำมามากกว่าสองคนนั่น..” อย่างไรก็ตาม เมื่อตั้งสติได้ เขาจึงระงับความคิดแง่ลบเช่นนั้น และกลับมายินดีกับความสำเร็จของเพื่อนรัก

เพื่อนของแฮร์รี่อีกคนหนึ่งที่เกิดวันเดียวกันคือ เนวิลล์ ลองบัตท่อม เมื่อผมอ่านเรื่องนี้ครั้งแรก ผมรู้สึกว่า เจเคต้องวางบุคลิกภาพของเนวิลล์ เด็กชายผู้เกิดวันเดือนปีเดียวกับแฮร์รี่ ผิดแน่ๆ เพราะบุคลิกของเนวิลล์ออกไปในทางไม่สู้คน ไม่มีความเป็นผู้นำ แต่เมื่ออ่านถึงตอนท้ายของภาคแรก ความเป็นสิงห์ในตัวของเนวิลล์ก็ปรากฏออกมาเมื่อเขาพยายามขัดขวางเพื่อนรักทั้งสามคือแฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี ไม่ให้หนีออกไปนอกตึกซึ่งผิดกฎ คำพูดของเนวิลล์แสดงถึงความเป็นสิงห์ที่ซ่อนอยู่ในตัวเขา “..อย่าเรียกฉันว่าปัญญาอ่อน ฉันไม่คิดว่าพวกนายควรทำผิดกฎมากไปกว่านี้แล้ว และนายเองเป็นคนบอกกับฉันให้ยืนหยัดสู้กับคนอื่น.” และศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ก็ได้ให้ข้อสรุปถึงความกล้าหาญของเนวิลล์ในเรื่องดังกล่าวว่า “..ความกล้าหาญทุกรูปแบบ ต้องใช้ความแกร่งกล้าอย่างมากที่จะยืนหยัดต่อสู้ศัตรู แต่ต้องมีความกล้ามากกว่านั้นที่จะยืนหยัดต่อเพื่อนของเรา..” เมื่อเราติดตามนิยายเรื่องนี้มายังเล่มหลังๆ เราก็จะพบว่า เนวิลล์เป็นเด็กที่มีความกล้าหาญอย่างยิ่ง เขาเป็นหนึ่งในกองทัพดับเบิลดอร์และเข้าร่วมการต่อสู้สำคัญๆทุกครั้งโดยไม่กลัวอันตราย ทั้งนี้ สำหรับนักโหราศาสตร์แล้ว เมื่อเราพบว่าเจ้าชะตามีอาทิตย์อยู่ในราศีสิงห์ ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำออกมาอย่างชัดเจน แต่เราต้องดูจุดเจ้าชะตาอื่นๆและเรือนชะตาอีกด้วย เพราะเมื่อเวลาเกิดไม่ตรงกัน แม้ว่าจะเกิดวันเดือนปีเดียวกัน ก็ย่อมมีความแตกต่างกัน

เพื่อนรักของแฮร์รี่คนต่อมาคือ เฮอร์ไมโอนี เกรนเจอร์ วันเกิดของเธอตรงกับวันที่ 19 กันยายน ตรงกับราศีกันย์ ลักษณะเด่นของคนราศีกันย์คือเป็นนักวิเคราะห์ นักตรวจสอบ ฉลาด ขยัน มีระเบียบแบบแผน ระมัดระวัง ขี้ระแวง ซึ่งตรงกับความเป็นเฮอร์ไมโอนีทุกประการ เธอเป็นนักเรียนดีเด่นที่ขยันเรียนรู้ทุกๆเรื่องในตำรา เธอจะอ่านตำราจนจบก่อนที่จะเข้าเรียนอยู่เสมอ และทำให้เธอสอบได้ที่หนึ่งทุกๆปี ในกลุ่มเพื่อนรัก 3 คน แฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี นั้น เธอจะเป็นคนค้นหาข้อมูลเจาะลึกมาให้เพื่อนๆเสมอ คอยระมัดระวังไม่ให้แฮร์รี่ทำอะไรผลีผลาม เธอเป็นคนปิดจุดอ่อนสำคัญของแฮร์รี่ที่มักจะทำอะไรตามใจตนเองและรวดเร็วจนขาดความระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ นักโหราศาสตร์บางท่านอาจสงสัยว่า ทำไมเฮอร์ไมโอนีผู้เกิดในราศีกันย์ ธาตุดิน แต่กลับอยู่บ้านกริฟฟินดอร์ ซึ่งผมคิดว่าเป็นธาตุไฟ ตรงนี้ ผมเชื่อว่า ถ้าเฮอร์ไมโอนีเป็นคนจริงๆ จุดเจ้าชะตาจุดอื่นของเธอคงอยู่ในราศีธาตุไฟอย่างแน่นอน เพราะทุกครั้งที่ถึงจุดที่ต้องตัดสินใจ เฮอร์ไมโอนีจะมีความกล้าหาญอยู่เสมอ ไม่ได้ปล่อยให้ความระมัดระวังแบบราศีกันย์มาขัดขวางการมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายที่มีความเสี่ยง

เพื่อนรักอีกคนหนึ่งของแฮร์รี่ คือ โรนัลด์ วีสลีย์ หรือ รอน ผู้เกิดในวันที่ 1 มีนาคม ตรงกับราศีมีน ลักษณะเด่นของราศีมีนคือ ความคลุมเครือ การปกปิด มีจินตนาการ ซึ่งรอนก็มีลักษณะเช่นนั้น กล่าวคือ รอนเป็นลูกคนกลางๆ ที่ไม่รู้ว่าตนเองมีจุดเด่นหรือชอบอะไร มักตามใจคนอื่น ไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง ต้องอาศัยคนอื่นช่วยสนับสนุนจึงจะมั่นใจ ตอนที่ได้รับตำแหน่งคีปเปอร์ของทีมควิดดิช เขาต้องใช้เวลานานมากถึงจะเกิดความมั่นใจจนพบว่าตนเองก็เป็นนักกีฬาที่ดีได้ ที่น่าแปลกใจอีกอย่างคือ เจเค ได้เขียนเรื่องให้รอนและเฮอร์ไมโอนีชอบกัน ซึ่งราศีมีนของรอนและราศีกันย์ของเฮอร์ไมโอนีเป็นราศีที่ตรงข้ามกันพอดี มีลักษณะที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงอีกด้วย อย่างไรก็ตาม คู่รักที่มีความแตกต่างอย่างสุดขั้วอย่างสองราศีนี้ ก็สามารถเป็นคู่รักที่ลงตัวก็ได้ หากนำความต่างนั้นมาเติมเต็มซึ่งกันและกัน

ตัวร้ายที่สุดในนิยายเรื่องนี้คือ ลอร์ด โวลเดอมอร์ หรือชื่อเดิมว่า ทอม มาร์โวโล่ ริดเดิ้ล เกิดวันที่ 31 ธันวาคม ตรงกับราศีมกร ในทางโหราศาสตร์นั้น ราศีมกร หมายถึง ความนาน ความสิ้นสุด พลัดพราก ความทุกข์ ความโดดเดี่ยว ความจริงจัง สนใจแต่เรื่องของตน ลอร์ดโวลเดอมอร์นั้นเติบโตขึ้นมาในโรงเลี้ยงเด็กกำพร้า เนื่องจากพ่อทิ้งแม่ของเขาไป และแม่ของเขาก็เสียชีวิตหลังจากคลอดทอมได้ไม่ถึงชั่วโมง ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์เคยอธิบายถึงลักษณะนิสัยของทอมไว้ว่า “ทอม ริดเดิ้ลเป็นคนที่ไม่พึ่งใคร.. และดูเหมือนจะไม่มีเพื่อน เขาไม่ต้องการความช่วยเหลือ.. เขาพอใจที่จะทำงานคนเดียว..ลอร์ดโวลเดอมอร์ไม่เคยมีเพื่อน และฉันเชื่อว่า เขาไม่เคยต้องการเพื่อนเลยด้วย” ซึ่งก็ตรงกับลักษณะในแง่ร้ายของราศีมกร ในแง่บวกนั้น ราศีมกร เป็นคนทำงาน เป็นการเป็นงาน มีความพยายามสูง มั่นคงต่อเป้าหมายที่ตั้งไว้ ก้าวหน้าเพราะทำงานโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ซึ่งก็ตรงกับลักษณะของโวลเดอมอร์อีก เพราะโวลเดอมอร์ตั้งเป้าหมายที่จะเป็นจอมมารตั้งแต่เรียนในฮอกวอตส์แล้ว และใช้เวลามากกว่าสิบปีในการดำเนินการตามแผนการของเขาจนกระทั่งก้าวขึ้นเป็นจอมมาร

ตัวละครฝ่ายร้ายที่สำคัญอีกคนหนึ่งที่น่าจะกล่าวถึงคือ เดรโก มัลฟอย นักเรียนร่วมรุ่นของแฮร์รี่ ผู้ซึ่งอยู่บ้านสลิธีริน และมีบทบาทขัดแย้งกับแฮร์รี่ตั้งแต่ช่วงแรกๆของภาคที่ 1 เลยทีเดียว มัลฟอย เกิดวันที่ 5 มิถุนายน ตรงกับราศีมิถุน ในทางโหราศาสตร์นั้น ราศีมิถุนมีลักษณะเด่นคือ มีความสามารถในการปรับตัวสูง คล่องแคล่ว และมีความสามารถในการเจรจาเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ได้อย่างดี ถ้าจะพูดในแง่ร้าย ก็คือมีความกะล่อน เมื่อลองหันมามองมัลฟอย เราจะพบว่า บุคลิกในแง่ลบของมัลฟอยคือเป็นเด็กที่ชอบคุยโวโอ้อวดความสามารถของตนหรือไม่ก็อภิสิทธิ์ที่เขาได้รับจากบารมีของพ่อ ความสามารถด้านลบอีกอย่างหนึ่งของมัลฟอยคือการประจบประแจงอาจารย์ รวมถึงการแสดงละครแกล้งทำเป็นบาดเจ็บเพื่อได้รับความเห็นใจ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่ามัลฟอยเป็นนักเรียนที่มีความสามารถรอบด้าน ทั้งการบิน (เป็นซีกเกอร์ประจำบ้านสลิธีริน), การปรุงยา, การใช้คำสาปสะกดใจ และการสร้างเหรียญลงคาถาเพื่อเป็นวิธีการติดต่ออย่างลับๆ (ที่ลอกเลียนแบบมาจากวิธีของเฮอร์ไมโอนี)

จะเห็นได้ว่า เจ เค โรว์ลิ่ง สามารถเลือกวันเกิดให้กับตัวละครแต่ละตัวได้ตรงกับบุคลิกภาพของคนแต่ละราศี ทำให้ผมมั่นใจมากว่า เธอมีความรู้ความเข้าใจในโหราศาสตร์อยู่ไม่น้อย คล้ายๆกับกุสตาฟ โฮลส์ นำความหมายทางโหราศาสตร์ของดาวเคราะห์แต่ละดวงมาประพันธ์บทเพลงคลาสสิคได้อย่างลงตัว

ยังมีตัวละครอีกหลายคนที่เจ เค โรว์ลิ่ง ได้บอกวันเกิดเอาไว้ แต่ผมคิดว่าถ้าผมเขียนอธิบายทั้งหมด คงทำให้บทความนี้ยาวมากและอาจจะไม่สนุกเท่าที่ควร ถ้าจะทำให้น่าสนุกยิ่งขึ้น ผมคิดว่าผู้อ่านที่พอมีความรู้โหราศาสตร์น่าจะลองดูข้อมูลวันเกิดของตัวละครแต่ละคนตามรายละเอียดด้านล่าง และนำไปพิจารณาดูว่า บุคลิกของตัวละครตรงกับราศีของเขาหรือไม่ อย่างไร อย่างนี้น่าจะสนุกกว่านะครับ

เจมส์ พอตเตอร์ (พ่อของแฮร์รี่) เกิด 27 มีนาคม
ลิลี่ พอตเตอร์ (แม่ของแฮร์รี่) เกิด 30 มกราคม
ดัดลีย์ เดอรสลีย์ (ลูกพี่ลูกน้องของแฮร์รี่) เกิด 23 มิถุนายน
อาเธอร์ วีสลีย์ (พ่อของรอน) เกิด 6 กุมภาพันธ์
มอลลีย วีสลีย์ (แม่ของรอน) เกิด 30 พฤศจิกายน
บิล วีสลีย์ (พี่ชายคนโตของรอน ทำงานในธนาคารกริงกอตส์) เกิด 29 พฤศจิกายน
ชาลี วีสลีย์ (พี่ชายของรอน ทำงานในโรมาเนีย) เกิด 12 ธันวาคม
เพอร์ซี วีสลีย์ (พี่ชายของรอน ทำงานในกระทรวงเวทมนตร์) เกิด 22 สิงหาคม
เฟรด และ จอร์จ วีสลีย์ (พี่ชายของรอนที่เป็นฝาแฝด) เกิด 1 เมษายน
จินนี่ วีสลีย์ (น้องสาวของรอน) เกิด 11 สิงหาคม
รูเบียส แฮกริด เกิด 6 ธันวาคม

เขียนมาถึงตอนนี้แล้ว พบว่า เนื้อหาของบทความค่อนข้างยาวกว่าที่นึกเอาไว้ แต่ยังมีประเด็นว่าด้วยโหราศาสตร์ในแฮร์รี่ พอตเตอร์ที่ยังไม่ได้กล่าวถึงอีกหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นวิชาพยากรณ์ศาสตร์ในฮอกวอตส์, เซ็นทอร์ นักพยากรณ์, ชื่อตัวละครกับความหมายแฝง ฯลฯ ซึ่งแต่ละเรื่องก็น่าสนใจและน่าจะเป็นประโยชน์กับนักศึกษาโหราศาสตร์และผู้สนใจทั่วไป ผมจึงขออนุญาตยกประเด็นเหล่านี้ไปไว้ใน โหราศาสตร์ในแฮร์รี่ พอตเตอร์ ตอนหน้าก็แล้วกันครับ

 

เอกสารอ้างอิง
1. พลตรี ประยูร พลอารีย์, คัมภีร์สูตรเรือนชะตา, โรงเรียนโหราศาสตร์กรุงเทพ.
2. พลตรี ประยูร พลอารีย์, ทฤษฎีการพยากรณ์.
3. วิโรจน์ กรดนิยมชัย, เอกสารประกอบการศึกษาโหราศาสตร์ยูเรเนียน เล่ม 1, บ้านโหราศาสตร์, 2542.
4. เจ เค โรว์ลิ่ง, แฮร์รี่ พอตเตอร์ เล่ม 1-7, Bloomsbury & นานมีบุ๊คส์.
5. http://www.hp-lexicon.org

 

 

จอมยุทธในมังกรหยกกับจักรราศี ตอน 2

โดย พัลลาส Pallas@horauranian.com
15 พฤศจิกายน 2018

ในบทความก่อน ผมได้เล่าถึงตัวละครเอก 4 คนในนิยายชุดมังกรหยก ได้แก่ ก้วยเจ๋ง อึ้งย้ง เอี้ยก้วย เซียวเล้งนึ่ง ไปแล้วว่าน่าจะเป็นตัวแทนบุคลิกคนราศีอะไรบ้าง สำหรับบทความนี้ ก็จะเล่าต่อถึง ห้ายอดฝีมือจากชุมนุมวิจารณ์กระบี่ฮั่วซัว กันต่อ

img_2265-2.jpg

แต่ก่อนถึงห้ายอดฝีมือ ขอกล่าวถึงพระเอกในมังกรหยกภาคสาม หรือชื่อแปลตรงตัวจากภาษาจีนว่า บันทึกอิงฟ้าพิฆาตมังกร เป็นเหตุการณ์หลังจากตอนจบของมังกรหยกภาค 2 เกือบร้อยปี ภาคนี้มีพระเอกคือ เตียบ่อกี้ ผู้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด สำเร็จทั้งวิชาแพทย์ วิชาพิษ คัมภีร์เก้าเอี๋ยง ยอดวิชาเคลื่อนย้ายจักรวาล และอีกหลากหลายวิชา เป็นคนดีที่เอาใจใส่ดูแลอยากให้ทุกคนรอบข้างมีความสุข เป็นคนอ่อนไหว ขาดการตัดสินใจอันเด็ดเดี่ยว ไม่ชอบขัดใจผู้อื่น อ.กิมย้ง เคยเขียนถึงเตียบ่อกี้ว่า “…อุปนิสัยใจคอของเตียบ่อกี้ค่อนข้างสับสนและค่อนข้างอ่อนแอ ขาดธาตุแท้ของวีรบุรุษผู้กล้าอยู่บ้าง … ในชีวิตของเตียบ่อกี้มักได้รับผลสะท้อนจากผู้อื่น ถูกสภาพแวดล้อมครอบงำ ไม่สามารถดิ้นรนหลุดพ้นได้ … ในส่วนลึกจิตใจเขา เขารักโกวเนี้ยนางใดมากกว่า เกรงว่าเขาเองก็ไม่ทราบ ผู้แต่งก็ไม่ทราบ…” อุปนิสัยที่คอยเอาใจใส่ดูแลผู้อื่น และโอนอ่อนต่อคนรอบข้างเช่นนี้ แปลว่า เตียบ่อกี้ เป็นชาวราศีกรกฎ (Cancer) ราศีต้นธาตุน้ำ ความเป็นธาตุน้ำทำให้ตัดสินใจโดยใช้อารมณ์ความรู้สึก มากกว่าใช้เหตุผล ทำให้หลายต่อหลายครั้ง เตียบ่อกี้ต้องพบกับความลำบากเพราะเขาอยากช่วยเหลือผู้อื่นจนลืมคิดถึงตนเอง ที่น่าสนใจคือ ราศีกรกฎมีดาวจันทร์เป็นดาวประจำราศี จันทร์หมายถึงมวลชน กลุ่มผู้ชุมนุม คนที่มีราศีกรกฎเด่นจึงมักมีความสามารถในการเข้าใจและนำมวลชนได้ ตอนท้ายเรื่อง ทหารมองโกลเข้าล้อมวัดเสียวลิ้มยี่ที่กำลังชุมนุมเหล่าจอมยุทธทั้งฝ่ายธรรมะและฝ่ายมาร เตียบ่อกี้กลับสามารถเป็นผู้นำมวลชน รวมใจชาวยุทธทั้งสองฝ่ายให้ร่วมมือกันสามัคคีต่อสู้ทหารมองโกล และสามารถถอยหนีออกมาจากวัดเสียวลิ้มยี่ได้อย่างปลอดภัย

พูดถึงจอมยุทธราศีกรกฎไปแล้ว ขอกลับมาที่ ห้ายอดฝีมือในมังกรหยกภาคแรก เริ่มจาก ขอทานอุดร อั้งชิกกง ประมุขพรรคกระยาจก ท่านเป็นจอมยุทธผู้ห้าวหาญ ยึดมั่นในคุณธรรม วิชาไม้ตายของท่านคือ สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร ซึ่งเป็นวิชาที่ห้าวหาญ หนักแน่น รุนแรง จุดอ่อนของท่านคือ โปรดปรานอาหารเลิศรส จนต้องยอมอ่อนข้อให้อึ้งย้งเสมอเพราะอยากกินอาหารรสเลิศฝีมืออึ้งย้งนั่นเอง ฉายาของท่านคือ เทพขอทานเก้านิ้ว ท่านเคยตะกละตะกลามรับประทานคลาดเวลา จนไปช่วยชีวิตคนไม่ทัน ยามโกรธท่านจึงฟันนิ้วชี้ขวาของท่านขาดไปจนเหลือนิ้วเพียงเก้านิ้ว จากจุดเด่นที่เป็นจุดอ่อนในเรื่องความพิถีพิถันในการกินนี้เอง จึงคิดว่าท่านคือ ราศีพฤษภ (Taurus) ราศีของนักกิน ลองสังเกตได้ว่า คนราศีพฤษภมักเป็นคนพิถีพิถันในการกิน เป็นนักชิม มักแสวงหาร้านอาหารอร่อยๆ หรือบางคนก็ออกไปทางกินยาก เลือกมาก เหมือนกัน ราศีพฤษภเป็นราศีของคนมั่งมี การที่อั้งชิกกงเป็นหัวหน้าพรรคกระยาจก ไม่ได้แปลว่าท่านจะยากจน แต่ท่านกลับสามารถใช้ชีวิตเพลิดเพลินไปกับการกินอาหารอร่อยๆไปทั่วแผ่นดิน ถุงกลางหลังของท่านเต็มไปด้วยอุปกรณ์ปรุงอาหารมากมาย สมเป็นนักสะสมตามลักษณะชาวราศีพฤษภนั่นเอง

อึ้งเอียะซือ ฉายา อวิชชาบูรพา ท่านคือผู้รอบรู้ในศาสตร์แทบทุกศาสตร์ ทั้งวิชาการต่อสู้ ดนตรี ศิลปะ กวี ค่ายกล ดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ การแพทย์ เดินหมาก ฯลฯ แต่เป็นคนไม่ชอบความคร่ำครึ เกลียดจารีตประเพณีโบราณ ไม่ยึดติดกับขนบธรรมเนียมที่ทำตามๆกันมา ชอบการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ  ความแปลกจากคนทั่วไปเช่นนี้ ทำให้ถูกตั้งฉายาว่า อวิชชาบูรพา บุคลิกเช่นนี้คือ ราศีกุมภ์ (Aquarius) ราศีของนักอุดมคติ นักปฏิวัติ ผู้นิยมความแปลกใหม่ ไม่ซ้ำซากจำเจ

พิษประจิม หรือ อาวเอี๊ยงฮง เป็นคนตัวสูงใหญ่ มาจากไซฮก หรือมณฑลซินเจียง ในปัจจุบัน เป็นยอดฝีมือด้านการใช้พิษ พลังลมปราณก็เป็นแนวทางพิเศษจากคนอื่นคือ ลมปราณคางคก แม้ภาพรวมแล้ว ถือได้ว่า อาวเอี๊ยงฮงเป็นตัวร้ายในมังกรหยกภาคแรก เพราะต้องการเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของยุทธจักรโดยไม่สนใจวิธีการ อยากได้วิชาในคัมภีร์เก้าอิมมากจึงบีบบังคับให้ก้วยเจ๋งบอกออกมา จนในที่สุดเจออุบายของอึ้งย้งที่บอกวิชาเก้าอิมแบบย้อนทวน จนธาตุไฟเข้าแทรกเสียสติไป แต่อาวเอี๊ยงฮงเป็นยอดอัจฉริยะกลับสามารถสร้างสรรค์วิชาฝีมือจากการบอกเล่าแบบผิดๆขึ้นมาได้ ความคลั่งวิทยายุทธ์เพื่อเอาชนะผู้อื่น เพื่อกลายเป็นเจ้ายุทธจักร จึงสะท้อนบุคลิกราศีสิงห์ (Leo) ราศีแห่งความเป็นผู้นำ ความโดดเด่นเหนือผู้อื่น นี่ไม่ได้หมายความว่าคนราศีสิงห์จะเป็นผู้ร้ายแบบอาวเอี๊ยงฮงทุกคนนะครับ เพียงแต่บุคลิกที่ต้องการโดดเด่นเหนือผู้อื่นเป็นลักษณะของคนราศีสิงห์ ส่วนวิธีการที่ใช้จะดีหรือร้ายยังต้องดูองค์ประกอบอื่นในดวงชะตาอีกเยอะ

ยอดฝีมือท่านต่อมา คือ อิดเต็งไต้ซือ หรือ ต้วนอ้วงเอี๊ย ราชันทักษิณ ผู้แตกฉานในวิชาดัชนีเอกะสุริยัน ท่านเป็นกษัตริย์แห่งต้าลี่ ตอนที่จิวแป๊ะทงลอบเป็นชู้กับ เอ็งโกว สนมรักของท่านจนมีลูกด้วยกัน ท่านโกรธมาก เมื่อคิ้วเชยยิ่มใช้ฝ่ามือเหล็กฟาดทารกจนปางตาย ต้วนอ้วงเอี๊ยไม่ยอมช่วยจนลูกเอ็งโกวตายไป ท่านจึงสำนึกผิดปลงผมออกสู่เพศบรรพชิตเป็น อิดเต็งไต้ซือ ชีวิตบรรพชิตของท่านเต็มไปด้วยการช่วยเหลือผู้อื่น แม้กระทั่งคิ้วเชยยิ่ม ที่กลับใจออกบวชมาอยู่กับท่าน ก็ได้ท่านช่วยเหลือจนก่อนตายได้รับการให้อภัยจากเอ็งโกว ลักษณะที่รักมาก แค้นมาก และสุดท้ายกลับยอมเสียสละเช่นนี้ คือบุคลิกของชาวราศีพิจิก (Scorpio) ซึ่งก็เป็นราศีของเอี้ยก้วยที่เคยเขียนถึงแล้วในตอนก่อน นั่นเอง

สุดท้ายคือ เทพมัชฌิม เฮ้งเต็งเอี๊ยง ท่านเป็นยอดฝีมือที่รักชาติรักแผ่นดิน เห็นไต้กิมรุกรานประเทศจีน ทำร้ายคนในชาติ จึงรวบรวมกำลังต่อสู้กับทหารชาวกิมด้วยความห้าวหาญ เป็นผู้นำการต่อสู้อย่างไม่กลัวตาย แต่สุดท้ายเมื่อพ่ายแพ้ ก็ต้องกลับมาก่อตั้งสำนักพรตช่วนจิน จนเป็นสำนักที่ยิ่งใหญ่ ลักษณะของคนที่มีความมุ่งมั่นต่อเป้าหมายชีวิตโดยไม่ย่อท้อ กล้าบุกเบิกทำสิ่งที่คนทั่วไปไม่กล้า เป็นลักษณะของชาวราศีเมษ (Aries) นักบุกเบิกที่กล้าหาญ ไม่หวั่นต่อความยากลำบาก อีกนัยหนึ่งก็คือ เป็นคนหัวรั้น มีทิฐิ ไม่ยอมคน กรณีท่านเฮ้งเต็งเอี๊ยง ตัวท่านเองที่จริงแล้วมีความรักกับลิ่มเจียวเอ็ง เจ้าสำนักสุสานโบราณ แต่ด้วยทิฐิบางอย่าง จึงไม่ได้ครองคู่กันจนเมื่อลิ่มเจียวเอ็งตายจากไป ท่านจึงเข้าไปสุสานโบราณและพบว่า ลิ่มเจียวเอ็งได้คิดวิชาทำลายกระบวนท่าของสำนักช่วนจินไว้ทั้งหมด ด้วยความไม่ยอมคนแบบราศีเมษ ท่านจึงคิดวิชาที่เอาชนะวิชาของลิ่มเจียวเอ็งได้ และเพื่อให้ลูกศิษย์ของสำนักสุสานโบราณรู้ว่า สำนักช่วนจินไม่ได้แพ้สำนักสุสานโบราณ ท่านจึงไปสลักวิชานี้ไว้ที่ฝาโลงเปล่าด้านใน ที่ที่ลูกศิษย์สำนักสุสานโบราณจะต้องมานอนเมื่อยามใกล้ตาย ถึงตอนรอความตาย ศิษย์สำนักสุสานโบราณก็จะรู้ว่า ที่คิดว่าวิชาของตนเหนือวิชาช่วนจินนั้น จริงๆแล้ว ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย ทิฐิที่ต้องการเอาชนะแบบนี้ คือตนรู้ว่าตนไม่ได้แพ้ แต่ไม่จำเป็นต้องประกาศให้โลกรู้ก็ได้ ขอให้คนที่ตนต้องการรับทราบก็เป็นพอ จึงเป็นลักษณะหนึ่งของชาวราศีเมษนั่นเอง

ท่านกิมย้งได้สร้างสรรค์ตัวละครในนวนิยายกำลังภายในของท่านได้อย่างยอดเยี่ยม ทุกคนมีบุคลิกที่แตกต่าง มีจุดเด่น จุดด้อยไม่เหมือนกัน แต่หากมีคุณธรรมย่อมเป็นวีรบุรุษวีรสตรีได้เช่นกัน โหราศาสตร์ก็เป็นศาสตร์ที่มนุษย์คิดค้นขึ้นมา เพื่อทำความเข้าใจธรรมชาติ ทำความเข้าใจมนุษย์ ทั้งตนเอง และผู้อื่น เราจึงนำโหราศาสตร์มาอธิบายบุคลิกของตัวละครในนวนิยายท่านกิมย้งได้อย่างดี

บทความนี้ขอจบลงด้วยคำของท่านกิมย้งที่ท่านเคยเขียนไว้ว่า “นวนิยายกำลังภายในไม่เพียงแต่สร้างฝันกลางวันแก่นักอ่าน หากทว่าต้องการให้นักอ่านยามนึกฝัน ขอให้นึกว่าตัวเองเป็นคนดี เพียรพยายามกระทำความดีต่างๆ คาดหวังว่าตัวเองต้องรักชาติ รักสังคม ช่วยเหลือผู้อื่นให้ได้รับความสุข” ท่านย้ำคำว่าคุณธรรมอยู่เสมอ เพราะนิยายกำลังภายใน หรือนิยายบู๊เฮียบ ต้องมีทั้ง บู๊ คือการต่อสู้ และ เฮียบ คือคุณธรรมความกล้าหาญ อยู่ด้วยกันเสมอ โลกนี้ถึงจะน่าอยู่สำหรับทุกคน

จอมยุทธในมังกรหยกกับจักรราศี ตอน 1

โดย พัลลาส Pallas@horauranian.com
10 พฤศจิกายน 2018

ปรมาจารย์นิยายกำลังภายในจีน ท่านกิมย้ง ได้จากโลกนี้ไปด้วยวัย 94 ปี เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา ผลงานนิยายกำลังภายในตลอดชีวิตของท่านทั้งหมดมี 15 เรื่อง ทุกเรื่องล้วนแล้วแต่ทรงคุณค่าต่อวงการวรรณกรรมจีน แต่ผลงานที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดีคือ นวนิยายชุดมังกรหยก ทั้งหมดมี 3 ภาค ภาคแรก ตัวเอกคือ ก้วยเจ๋ง และอึ้งย้ง ภาคสอง ตัวเอกคือ เอี้ยก้วย และเซี่ยวเล้งนึ่ง ภาคสาม ตัวเอกคือ เตียบ่อกี้

JinYong

เมื่อวานได้คุยกับ อ.กามล แสงวงศ์ ซึ่งก็เป็นคอนิยายกำลังภายในเช่นเดียวกัน คุยไปคุยมาเรื่องผลงานท่านอาจารย์กิมย้ง ผมก็เปิดประเด็นกับ อ.กามล ว่า ตัวละครในมังกรหยก ใครน่าจะเป็นคนราศีอะไรบ้าง เลยกลายเป็นหัวข้อที่พูดคุยกันได้ยาวเลย จึงคิดว่าน่าจะเอามาเล่าเป็นบทความดีกว่า

ตัวละครแรกที่เราพูดถึงคือ ก้วยเจ๋ง ชายหนุ่มผู้ซึ่งพลัดพรากจากแผ่นดินเกิดไปเติบโตในแผ่นดินมองโกล เป็นคนเรียนรู้ช้า กว่าจะฝึกวิชาสำเร็จก็ต้องฝึกฝนซ้ำๆด้วยความมานะทุ่มเท จนในที่สุดกลายเป็นสุดยอดฝีมืออันดับต้นๆของยุทธจักร เป็นคนยึดมั่นในจารีตประเพณี เป็นตัวแทนของคนดีในอุดมคติขงจื่อ ที่ต้องประพฤติให้ถูกต้องตามขนบธรรมเนียม เป็นคนรักชาติ บั้นปลายยอมพลีชีพเพื่อปกป้องแผ่นดินจีน คนที่มีบุคลิกเช่นนี้ก็คือคนราศีมกร (Capricorn) ซึ่งเป็นราศีต้นธาตุดิน ตัวแทนของความอนุรักษ์นิยม ชีวิตที่มีการพลัดพราก คนที่มีความขยันหมั่นเพียร ชีวิตที่เป็นไปตามระบบระเบียบ ก้วยเจ๋งนี่แหละคือมกรตัวจริง

สำหรับอึ้งย้ง ศรีภรรยาของก้วยเจ๋งนั้น เป็นคนเฉลียวฉลาด เจ้าความคิด สมองไว เรียนรู้อะไรได้เร็ว แต่ถ้าทำอะไรซ้ำๆแบบที่ก้วยเจ๋งทำนั้น เธอจะเบื่อหน่ายได้ง่าย การเจรจาความต่างๆ อึ้งย้งมักเป็นคนออกหน้า เพราะถ้าให้ก้วยเจ๋งพูดมักจะไม่ทันเหลี่ยมเขา แต่สำหรับอึ้งย้งแล้ว เธอไม่ยอมเสียเปรียบใครเลย บุคลิกของอึ้งย้งนี้จัดว่าเป็นคนราศีมิถุน (Gemini) ซึ่งเป็นราศีของนักเจรจาต่อรอง นักพูด เจ้าความคิด สมองไว แต่ข้อเสียของคนราศีนี้ก็เป็นแบบที่อึ้งย้งเป็น คือเบื่อหน่ายอะไรได้ง่าย เวลาตัดสินใจอะไรมักไม่เด็ดขาด แต่จะพลิกไปมาได้ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม ธรรมชาติของราศีมิถุนนั้นไม่ว่าจะเก่งขนาดไหน เวลาเจอคนราศีมกรแบบก้วยเจ๋งแล้ว มักแพ้ทางเสมอ เพราะว่ามกรไม่สนว่ามิถุนจะพลิกแพลงอย่างไร ตนก็จะมุ่งมั่นไปกับเส้นทางของตนเสมอ ไม่วอกแวกไปกับเหลี่ยมคูที่มิถุนวางไว้

ตัวละครคนโปรดของผมในนิยายมังกรหยก ก็คือ เอี้ยก้วย ลูกชายของเอี้ยคัง ตัวร้ายในมังกรหยกภาคแรก ที่เกิดกับ มกเนี่ยมชื้อ หญิงผู้อาภัพ เอี้ยก้วยเกิดมาได้ไม่กี่ปี แม่ก็ตายจากไป กลายเป็นกำพร้าต้องดิ้นรนเลี้ยงดูตนเอง พอเริ่มมีโชคได้เจอก้วยเจ๋งพาไปดูแลที่เกาะดอกท้อ อึ้งย้งก็ดันระแวงข้อหาเป็นลูกชายเอี้ยคัง จนทำให้ถูกเพื่อนๆบนเกาะกลั่นแกล้งจนก้วยเจ๋งต้องพาไปฝากตัวเป็นศิษย์สำนักช้วนจิน แต่กลับถูกกลั่นแกล้งอีกจนต้องไปเป็นลูกศิษย์เซียวเล้งนึ่งในสุสานโบราณ เอี้ยก้วยเป็นชายหนุ่มที่มีบุคลิกขี้เล่น มีเสน่ห์กับสาวๆ เป็นคนใจกว้าง มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น แต่มีความรักเดียวใจเดียวกับอาจารย์ของเขา เซียวเล้งนึ่ง จนยอมใช้ชีวิตสันโดษไปกับเซียวเล้งนึ่งอย่างผิดไปจากบุคลิกห้าวหาญมากมิตรของเขา เป็นคนที่ยอมเสียสละตนเองช่วยเหลือก้วยเจ๋งในยามเกิดสงครามกับมองโกล ขนาดที่ก้วยพู้ บุตรีคนโตของก้วยเจ๋งเคยตัดแขนของเอี้ยก้วย แต่ยามที่สามีของก้วยพู้มีภัย เอี้ยก้วยกลับเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยชีวิตออกมา บุคลิกผู้เสียสละเช่นนี้ ก็คือ ราศีพิจิก (Scorpio) นั่นเอง ถ้าให้สรุปสั้นๆเกี่ยวกับราศีพิจิก ก็คือคำว่า เสียสละ ในซีกโลกเหนือ เมื่อดวงอาทิตย์โคจรเข้าราศีพิจิก ก็เป็นกลางฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้หลุดร่วงจากต้น เสียสละตนเองเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ฤดูหนาว เอี้ยก้วยนั้นแม้ชีวิตของเขาจะเจอความพลัดพรากลำบากขนาดไหน แต่ถ้าจะต้องเสียสละเพื่อให้คนอื่นมีชีวิตที่ดีขึ้นแล้ว เขาไม่อิดออดแม้แต่น้อย

อาจารย์และศรีภรรยาของเอี้ยก้วยคือ เซียวเล้งนึ่ง สตรีผู้เติบโตในสุสานโบราณ เป็นคนไม่แสดงอารมณ์สีหน้าใดๆ ไม่สนใจคนภายนอก ชอบปลีกตัวออกจากสังคม เพราะไม่ชอบความวุ่นวาย ช่วงที่เซียวเล้งนึ่งใช้ชีวิตอยู่กับเอี้ยก้วยมักเป็นการแยกตัวจากผู้อื่น ในวัยรุ่นอยู่ในสุสานโบราณด้วยกันสองคน หรือหลังจากสมหวังในรักตอนท้ายเรื่อง ก็ปลีกตัวออกจากยุทธจักร ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร บุคลิกเช่นนี้คือ ราศีมีน (Pisces) ราศีสุดท้ายของจักรราศี การที่เอี้ยก้วยและเซียวเล้งนึ่งเป็นคู่ชีวิตด้วยกันได้นั้น ก็เพราะเป็นคู่ร่วมธาตุน้ำด้วยกัน ธาตุน้ำคือการใช้อารมณ์ความรู้สึกเป็นหลักในการตัดสินใจ ไม่ใช่เหตุผล คู่รักคู่นี้ไม่สนว่า จารีตประเพณีของสังคมยุคนั้นมองว่า อาจารย์กับศิษย์ไม่สามารถเป็นคู่รักกันได้ ความรักของเอี้ยก้วยเซียวเล้งนึ่งถือว่าเป็นรักต้องห้าม เป็นบาปมหันต์ของสังคมยุคนั้น ก้วยเจ๋งชาวราศีมกร (ธาตุดิน ตัดสินใจด้วยเหตุผลเป็นหลัก) ถึงกับดุด่าเอี้ยก้วยอย่างรุนแรงในเรื่องนี้ แต่เอี้ยก้วยเซียวเล้งนึ่ง ธาตุน้ำ ที่ตัดสินใจโดยใช้หัวใจนำทาง กลับไม่เห็นว่า การกระทำของตนมันผิดตรงไหน

ตอนนี้เราเล่าเรื่องจอมยุทธกับราศีไปแล้ว 4 ราศี คือ มกร มิถุน พิจิก มีน ตอนต่อไป ผมจะมาเล่าเรื่องราศีของห้ายอดฝีมือ ราชันย์ทักษิณ ยาจกอุดร มารบูรพา พิษประจิม และเทพมัชฌิม กันต่อไปครับ