ศารทวิษุวัต 22 กันยายน

โดย พัลลาส Pallas@horauranian.com
22 กันยายน 2559

วันนี้ วันพฤหัสบดีที่ 22 ก.ย. 2559 เป็นวันที่ดวงอาทิตย์อยู่ตำแหน่งตั้งฉากกับเส้นศูนย์สูตรโลกพอดี ในทางโหราศาสตร์สากล ถือว่าเป็นวันที่อาทิตย์ยกเข้าราศีตุล และในทางฤดูกาล ถือว่าเป็นวันเริ่มต้นเข้าฤดูใบไม้ร่วงในซีกโลกเหนือ เรียกกันในศัพท์วิชาการว่า วันศารทวิษุวัต (Autumn Equinox)

คำว่า ศารท นั้น พระยาอนุมานราชธนได้เขียนเล่าในหนังสือเทศกาลและประเพณีไทยว่า คำว่า “สารท” เป็นคำอินเดีย หมายถึง ” ฤดู ” ตรงกับฤดูในภาษาอังกฤษที่เรียกว่า ” ออตอม ” อันแปลว่า ฤดูใบไม้ร่วง

ภาษาอังกฤษเรียกวันนี้ว่า Autumn Equinox คำว่า Autumn ก็คือฤดูใบไม้ร่วง ส่วนคำว่า Equinox ซึ่งมาจากภาษาละติน คือ Aequus ที่แปลว่า เท่ากัน และคำว่า Nox ที่แปลว่ากลางคืน เพราะวันนี้เป็นวันที่กลางวันและกลางคืนยาวนานเท่ากัน ซึ่งปีนึงจะมี 2 วัน คือ 20 มีนาคม เรียกว่า วันวสันตวิษุวัต (Spring Equinox) เพราะเป็นวันเริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิของซีกโลกเหนือ (วสันต์ คือฤดูใบไม้ผลิ) และ 22 กันยายน เรียกว่า วันศารทวิษุวัต (Autumn Equinox)

พจนานุกรมศัพท์ดาราศาสตร์ ของสมาคมดาราศาสตร์ไทย อธิบายคำว่า Autumnal Eqinox หรือ ศารทวิษุวัต ว่า ตำแหน่งที่ดวงอาทิตย์ข้ามจากซีกฟ้าเหนือไปยังซีกฟ้าใต้ในทรงกลมฟ้า ปัจจุบันตำแหน่งนี้อยู่ในกลุ่มดาวหญิงสาว (มีความหมายเหมือนกับ first point of libra)

ในทางโหราศาสตร์ ถือว่า วันนี้เป็นวันต้นแบบของไตรมาสสุดท้ายของปี เมื่อคำนวณดวงชะตา ณ วันเวลาที่ดวงอาทิตย์เข้าสู่ราศีตุลย์ ก็สามารถแปลความหมายและพยากรณ์เป็นเหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีได้ (22 ก.ย.- 22 ธ.ค.)

img_1752สำหรับดวงศารทวิษุวัต ปีนี้ ตรงกับ วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน 2559 เวลา 21:21 น. กรุงเทพมหานคร เมื่อเราตั้งดวงชะตาขึ้นในวันเวลาดังกล่าว พบว่า มีโครงสร้างสำคัญคือ อาทิตย์กุมดาวพฤหัส ราศีตุล ในเรือนที่ 5 บ่งบอกว่า ในไตรมาสสี่ การเก็งกำไรต่างๆน่าจะคึกคัก ตลาดหุ้นน่าจะดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม มีอีกโครงสร้างหนึ่งที่ต้องระวัง คือ โครงสร้าง T-Square ของดาวพุธ เนปจูน และเสาร์ บ่งบอกถึง ข่าวลวง ข่าวไม่จริง จะทำให้เกิดเรื่องยุ่งยาก  ใครจะเก็งกำไร ก็ต้องระวังการปล่อยข่าวลวง ปั่นหุ้น ให้ดี

ข้อแนะนำสำหรับทุกท่าน ก็คือ วันนี้ ราวสามทุ่ม ก็ขอให้ใช้เวลานั้นให้มีคุณภาพ เพราะเวลานั้นจะส่งผลไปยังเหตุการณ์ที่จะเกิดกับเราในช่วงสามเดือนข้างหน้านี้ ใครอยากมีเงินใช้ไม่ขาด ก็อาจนำเคล็ดของอาจารย์จรัล พิกุล โดยการเอาธนบัตรใส่ให้เต็มกระเป๋าเงินของเรา อธิษฐานให้มีเงินเต็มกระเป๋าตลอดไตรมาส ใครอยากมีความสุขกับคนรัก ค่ำนี้ก็ใช้เวลากับคนรักให้มีความสุข อย่าทะเลาะกัน พูดจาดีๆ เอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ใครอยากให้งานรุ่งเรือง ก็ใช้เวลาตอนนั้นทบทวนงานที่ผ่านมาและวางแผนงานสำหรับไตรมาสสี่ นี่คือการนำปรัชญาโหราศาสตร์ว่าด้วย “อาตมัน และปรมาตมัน (Microcosm & Macrocosm) มาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ขอให้มีความสุขสมหวังกันทุกท่านครับ
 

ไพ่ 3 ดาบ หัวใจสลาย

โดย อ.กามล แสงวงศ์
8 กันยายน 2558

tarot-swords-03“ถ้าหนูตายเขาจะเสียใจมั้ยคะอาจารย์”
เสียงที่หลุดมาจากปลายสายนั้นหมดเรี่ยวแรง ฟังแล้วสิ้นหวังเชื่อว่าเธอจะปลิดชีวิตของเธอได้จริงๆ

ลูกค้าที่เป็นแบบนี้มักจะมีเข้ามาปีละคนสองคน ซึ่งถ้าเราปล่อยปละละเลย
อาจจะเกิดโศกนาฎกรรมขึ้นมาได้ บอกตามตรงว่าวันนั้นผมเองก็ไม่พร้อม
ร่างกายยังไม่หายจากไข้มาเลเรีย แต่น้ำเสียงที่ได้ยินนั้น ลางสังหรณ์บอกผมว่า เธอกำลังถูกอารมณ์เล่นงาน เธอฆ่าตัวตายได้แน่ๆ ถ้าอารมณ์มันแรงกว่านี้อีกสักหน่อย

ผมเปิดได้ไพ่ 3 ดาบหัวใจสลาย ดาบที่ปักหัวใจไม่ใช่แค่ดาบเดียว แต่เป็น3ดาบที่ทำให้เจ็บปวดทรมาน จนอยากตายมากกว่าอยู่ ด้านหลังของไพ่เป็นสายฝนที่โปรยปรายจากเมฆทะมึน บอกถึงความปวดร้าวรันทด ที่กลั่นออกมาเป็นหยาดน้ำตา

อาการแบบนี้เธอคงผิดหวังจากอะไรสักอย่าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องความรัก ความรักที่ถูกทำร้ายจากมือที่สาม
ถ้าให้คำปรึกษาไม่ดีพอ หยาดฝนอาจจะกลายเป็นหยดเลือดในวันนี้

ผมเริ่มดึงความสนใจของเธอก่อน เพื่อให้เธอรู้สึกว่าเธอไม่โดดเดี๋ยว เธอมีเพื่อน มีคนรับฟัง มีคนอยู่ข้างๆ

“ผมรู้สึกว่าคนเสียใจมาก เจ็บปวดจริงๆ เรื่องมันเป็นอย่างไรครับ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้มั้ย”

บางครั้งเราไม่ต้องรู้มากก็ได้นะครับ กรณีของคนที่อยากตายนี่เราให้เขาได้พูดได้ร้องไห้ได้ระบายอารมณ์ออกมามากๆจะช่วยเขาได้มากกว่าวางหน้าที่นักพยากรณ์ไว้ก่อนแล้วทำหน้าที่เป็นนักฟังที่ดีมาใช้จะดีกว่านะครับ

“แฟนหนูเขาทิ้งหนูไป เขาไปกับเด็กในโรงงาน เขาไม่มีเยื่อใยกับหนูเลย ทั้งๆที่เราเคยลำบากมาด้วยกัน ทั้งๆที่หนูเสียสละให้เขา พ่อแม่หนูไม่ให้คบกับเขาเพราะเขาเจ้าชู้ หนูก็ดันทุรังคบ จนพ่อแม่ท่านตัดหนูออกจากบ้าน หนูก็ยอม
มาอยู่ด้วยกัน ลำบากยังไงหนูก็อดทนไม่บ่นไม่ว่าสักคำ แล้วเขายังทิ้งหนูได้ลงคอ ตอนนี้บ้านหนูๆก็กลับไม่ได้ หนูตัวคนเดียว หนูไม่มีใครแล้ว หนูอยากตาย อาจารย์ว่า ถ้าหนูตายไป เขาจะเสียใจมั๊ย”เธอพูดเบาๆอย่างอ่อนแรง

“แล้วหนูคิดว่า คนใจร้ายทิ้งหนูไปแบบนี้เขาจะเป็นห่วงหนูมั้ย” ผมถามแบบจี้เข้าไปในปัญหา เพราะถ้าเราไม่ยอมรับว่าเรามีปัญหา เราก็จะไม่ยอมรับว่าเรากำลังมีปัญหา ซึ่งแบบนั้นจะแก้ไขไม่ได้ ก็คนไม่ป่วยจะรักษาอะไรล่ะครับ พอผมถาม เธอก็อึ้ง เงียบ สักพักก็พูดออกมาว่า

“คงไม่เป็นห่วง”
“นั่นน่ะสิ ดังนั้นไม่ว่าเราจะทำอะไร จะเป็นจะตายยังไง เขาก็คงไม่สนใจ เพราะเขาไปแล้วก็ไปลับ แล้วก็คงจะมีแต่หนูที่เสียใจอยู่คนเดียว หนูคิดมั๊ยว่าเขาจะกลับมาหา”
“เขาคงไม่กลับมาหรอกค่ะ”
“นั่นสิ แล้วหนูตัดสินใจอย่างไรดี”
“หนูคิดไม่ออกเลย มันมืดไปหมดทุกด้าน”
“ถ้าคิดไม่ออกก็มีทางเลือกอยู่สองสามอย่าง อย่างแรกไปปฎิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน หรือสถานปฎิบัติธรรมของโคเอนก้าที่ปราจีนบุรี วัดโสมพนัส ต.นาหัวบ่อ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร (ผมเลือกวัดนี้เพราะเคร่งพอที่จะไม่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียว จะได้ไม่คิดสั้น)
อย่างที่สองก็กลับบ้านไปกราบพ่อแม่ขอรับผิดในสิ่งที่ทำมา อย่าได้กลัวความผิด ต้องกล้าที่จะพบพ่อแม่ เพื่อที่จะได้พ้นจากบาปที่ทำไว้กับพ่อแม่
อย่างที่สาม ไปช่วยงานองค์กรการกุศลอย่างวัดพระพุทธบาทน้ำพุ แต่ต้องไปกินไปอยู่ที่นั่นเลย ถ้ามีเวลาไปบ่อยๆ หรือถ้ามีเวลาว่างพอก็อยู่สักเดือนก็ยิ่งดี พักกายพักใจให้สบายใจก่อน ตั้งหลักก่อน แผลร่างกายหรือแผลใจมันก็ต้องอาศัยเวลาในการรักษาเหมือนกัน
ตอนนี้อยากร้องไห้ก็ร้องให้พอ ร้องออกมาให้หมด หลังจากนั้นเราก็จะเข้มแข็งขึ้น ขอให้อดทนผ่านเวลานี้ไปให้ได้ เมื่อไหร่เครียด เมื่อไหร่ทุกข์ก็โทรมานะ ผมยินดีรับฟัง”

บางครั้ง การดูดวงก็อาจจะไม่ได้ดูดวง แต่สิ่งที่สำคัญในบางครั้งกลับเป็นเรื่องของการเป็นเพื่อนรับฟังปัญหาทุกข์ใจของลูกค้า การทำให้ลูกค้ารู้ว่าเขาไม่ได้โดดเดี่ยว ชีวิตเขา ยังมีคนเป็นห่วง ถึงแม้จะไม่เคยพบหน้ากันเลยก็ตาม
เมื่อทำเช่นนั้น มันก็เหมือนกับเราได้จุดเทียนอีกเล่ม ให้สว่างไสวขึ้นมาในโลกน้อยๆใบนี้ แล้วโลกก็จะหอมหวานอบอวลด้วยพลังของความเมตตา

2 ดาบแห่งการละเลย

โดย อ.กามล แสงวงศ์
1 กันยายน 2558

ผมมีลูกค้าคนหนึ่งที่ดูดวงกันมา3ปีแล้ว เธอจะโทรมาหาเป็นระยะๆ เพราะทุกข์ใจเรื่องสามีไปมีเมียน้อย ผมก็บอกให้เธอทำใจในเรื่องนี้เพราะมันเป็นวิบากกรรม ต้องเข้า พ.ศ.2559 โน่น วิบากกรรมถึงจะหมด บางครั้งการที่สามีมีเมียน้อยมันเป็นเพราะนิสัยและพฤติกรรมที่ไม่ดี ของเราหรือของเขา อันนี้จะแนะนำให้แก้ปัญหาไปอีกแบบหนึ่ง

แต่ในบางครั้ง การมีเมียน้อยมันก็เป็นวิบากกรรมที่ต้องชดใช้ต่อกรรม แบบนี้ก็ต้องอดทนชดใช้ไปจนจบสิ้นกระบวนการ รายนี้เมื่อเป็นวิบากกรรม มันก็เหมือนการเจ็บไข้ได้ป่วย ผมจึงได้แต่แนะนำให้เธอป่วยกายอย่าป่วยใจ ให้เอาใจใส่กับตัวเองให้มีความสุขสงบใจด้วยการหันไปวัดปฎิบัติธรรม ตั้งใจทำงานให้เจริญก้าวหน้า ใส่ใจในสุขภาพและบุคลิกภาพของตนเอง ดูแลลูกดูแลสามีให้อบอุ่นมีความสุข

swords02

เนื่องจากไพ่ที่เธอได้เป็นตัวหลักคือไพ่ 2 ดาบ ที่ในตำรามักจะบอกว่าโลเลไม่เด็ดขาด และการสื่อสารโดยไม่มีเหตุผลประกอบ ตัวเราเองก็ท่องจำกันไปเรื่อยแบบนกแก้วนกขุนทอง จึงเอาไปใช้ประโยชน์ได้น้อย

ไพ่ 2 ดาบเป็นภาพคนนั่งแบบปิดตาเอาดาบไขว้กัน นั่นก็แปลว่า ฉันนั่งอยู่ตรงนี้อย่างปลอดภัยและมั่นคง แต่ฉันไม่เห็นอะไร เพราะไม่เห็นอะไรฉันจึงขวางดาบป้องกันตัว อารมณ์ของภาพจึงเป็นความกลัว ซึ่งจากการมองไม่ทะลุ มองอนาคตไม่เห็น จึงเลือกที่จะไม่ทำอะไร เพราะจุดที่อยู่ปัจจุบันมันก็ปลอดภัยดีอยู่แล้ว มันจึงแปลเป็นการไม่มีวิสัยทัศน์‬ การไม่รู้จักสังเกต การตัดสินใจที่จะอยู่ที่เดิม การถูกหลอกลวง คำโกหก การละเลย การมองข้าม ไม่ใส่ใจ จึงต้องแก้ด้วยการถามการฟัง จึงเป็นที่มาของการสื่อสารทุกประเภท

เมื่อเธอเป็นคนไม่มีวิสัยทัศน์ซึ่งแปลว่าไม่ค่อยคิดอะไรลึกซึ้ง คิดอะไรไปไกล คิดอะไรต่อยอดในทางที่ดี ผมจึงฝึกเธอด้วยการตั้งคำถาม

ผมถามเธอว่า คนเราชอบไปอยู่ในที่แบบไหน ระหว่างที่ๆตนเองชอบกับที่ๆตนเองไม่ชอบ เธอตอบว่า ที่ๆตนเองชอบ ผมจึงถามต่อไปว่า แล้วเธอรู้มั้ยว่าสามีเธอชอบอะไร เธอตอบไม่ได้ ผมจึงบอกเธอว่า เธอช่างละเลย ทีหลังต้องรู้จักสังเกตด้วย คนจะอยู่ด้วยกันมันก็ต้องเอาใจใส่กันและกัน ไม่ใช่ว่าจะปล่อยปละละเลย แต่ตอนนี้ต้องทำสิ่งที่ทำได้ก่อน นั่นคือ การดูแลบ้านช่องให้น่าอยู่ แต่งเนื้อแต่งตัวเสื้อผ้าหน้าผมให้ดูดี ทำตัวเองให้มีความสุข ไม่ใช่สามีเข้าบ้านทีก็ตกใจที นึกว่ามางานศพ ยิ่งเย็นนี้มีข้าวต้มนี่ใช่แน่ๆ มาบ้านต้องเหมือนมาโรงแรม สะดวกสบายประทับใจ เข้าใจมั้ย ไม่ได้เลิกหรอก เมื่อถึงเวลา คนนั้นเขาก็ไป แล้วมันก็กลับมาดีเอง

นานๆ ทีเธอก็โทรมาปรึกษาที คนมันทุกข์ผมก็เข้าใจ เธอคอยถามว่าเมื่อไหร่มันจะจบ ไพ่ 2 ดาบมันถูกปิดตาจึงมองไม่เห็นอนาคต เลยกังวลกับมันแต่ทำอะไรมันไม่ได้ ผมก็ได้แต่บอกให้เธอรอ รอจนกว่าจะถึงปี 59 บางครั้งเธอก็โทรมาบ่นว่าไม่ทนละ เธอจะเลิก จะได้จบๆกันไปสักที แล้ว‪‎ไพ่ 2 ดาบมันลุกไปไหนมั้ย‬ ก็นั่งอยู่ตรงนั้นใช่มั้ย พอฟังเธอพิร่ำพิไรรำพันมากๆจนปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำเพราะโทรมาเช้าเกิ้น ผมก็บอกเธอว่า เอ้า! เลิกๆๆๆ เลิกไปเลย จะได้สบายใจ วันนี้นะ พอผัวตื่นก็ไล่มันออกจากบ้านไป เราก็อยู่กับลูกกันสองคนอย่างมีความสุข ส่วนบ้านเราก็ไม่ต้องให้สามีมันผ่อนแล้ว เราจะผ่อนเอง เราจะรับภาระทุกอย่างเอง เอาเลยครับ ผมเห็นด้วย เลิกเลย แต่ในดวงมันบอกว่าคุณยังไม่เลิกง่ายๆนะครับ ‎ที่ไม่เลิกง่ายๆเพราะตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าถ้าเลิกแล้วตัวเองจะไปทางไหนดี‬ ก็เลยต้องคาราคาซังแบบนี้ต่อไป เธอก็บอกว่าที่โทรมาก็หวังให้อาจารย์เตือนสตินี่แหละ

มาวันนี้เธอมาแปลก แปลกตรงที่ไม่ได้ถามเรื่องสามี แต่ถามเรื่องธุรกิจของครอบครัว คือร้านซีดีให้เช่าว่าช่วงนี้ทำไมยอดตก ผมก็ยก ‪‎ไพ่ 2 ดาบที่ละเลยไม่มีวิสัยทัศน์‬ นั้นมาคุยใหม่ ผมถามว่าคุณละเลยลูกค้ามั้ย? เธอบอกว่าไม่นะ เธอก็คุยกับลูกค้าทุกคน งั้นคุณรู้มั้ยว่าลูกค้าแต่ละคนชอบหนังประเภทไหน ไม่ชอบหนังประเภทไหน หนังในร้านของคุณที่มีอยู่ มีเรื่องอะไรสนุกอย่างไร จะเอาเรื่องไหนเสนอลูกค้าคนไหน เธออึ้งแล้วบอกว่าไม่รู้
ผมเลยบอกว่า คุณเป็นคนทำงานตามหน้าที่ไม่บกพร่อง แต่ไม่รู้จักการทำอะไรเกินหน้าที่ ไม่รู้จักการปรับปรุงคุณภาพของการบริการ ไม่มีวิสัยทัศน์ในธุรกิจ ไม่เห็นว่าหัวใจของธุรกิจคือการบริการ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าผูกพันธ์กับเราอย่างเหนียวแน่น ‎2ดาบยังแปลว่าการสื่อสารทุกรูปแบบ‬ ผมจึงแนะเธอต่อไปว่า เธอต้องรู้จักใช้การสื่อสารทุกชนิดให้เป็นประโยชน์ ในการสร้างสัมพันธ์ ในการให้ข้อมูลกับลูกค้า พูดจาก็ให้ไพเราะ รู้จักทำไลน์กลุ่มเพื่อแจ้งข้อมูล เรื่องเพจ เฟซบุ๊ค อินสตาแกรม นี่ก็อย่าละเลย แล้วกิจการจะดีขึ้น เธอบอกว่ามิน่า เวลาเธออยู่ร้านยอดเงินถึงสู้สามีไม่ได้ สามีเธอรู้จักหนังทุกเรื่องเลย

พอจบเรื่องนี้เธอก็วกมาเรื่องงานประจำของเธอ ว่าเธอเองถูกดึงงานที่ง่ายไปให้เด็กเส้นทำ ส่วนเธอดันได้งานยากที่ใครๆก็ส่ายหัวว่าทำไม่ได้ไม่สำเร็จมาทำ เธอเลยเครียดว่าจะเกิดปัญหา คนที่เป็นไพ่ 2 ดาบมันจะไม่มีวิสัยทัศน์ จะมองโอกาสไม่เจอจริงๆ ผมจึงถามเธอว่า เธอชอบงานที่ได้มาใหม่มั๊ย เธอบอกว่าชอบมันท้าทายดี แล้วถ้าเราทำงานยากมากๆ ไม่มีใครทำได้ไม่สำเร็จ ใครจะว่าอะไรเรามั้ย เธอบอกว่า ว่า ผมเลยตวาดแว้ด บ้าเหรอ ใครจะว่าคุณ งานที่ไม่มีใครทำได้ ถ้าคุณทำไม่ได้อีกคนก็เป็นเรื่องธรรมดาตามที่เขาคิดไว้อยู่แล้ว แต่ถ้าคุณทำสำเร็จล่ะ คุณจะดังมั้ย ดังค่ะ ดังนั้นงานยากนี่ถ้าทำไม่ได้ก็เท่าทุนถ้าทำได้ก็โชคดี ไม่มีอะไรต้องเสี่ยง แต่ถ้างานง่ายถึงทำได้ดี ใครๆก็ทำได้ไม่โดดเด่น แต่ถ้าทำพลาดนี่โดนด่าอื้อเลยนะ

แล้วเวลาบริษัทจะปรับตำแหน่ง เขาจะให้ใครก่อนระหว่างคนทำงานยากสำเร็จที่มีไม่กี่คน กับคนทำงานง่ายสำเร็จที่มีเยอะแยะ ให้คนทำงานยากก่อน เวลาบริษัทเอาคนออก ระหว่างคนทำงานยากสำเร็จที่หายากมาก กับคนที่ทำงานง่ายๆที่ใครทำก็ได้ เขาจะเก็บใครเอาไว้
คนทำงานยาก
นั่นดิ แล้วเวลาไปหางานใหม่ ระหว่างคนทำงานยากๆเก่ง กับคนทำงานง่ายๆเก่ง คนไหนที่เขาอยากได้ คนไหนที่บริษัทไหนก็ขาดแคลน
คนทำงานยาก
สรุปคนทำงานยากชีวิตจึงปลอดภัยก้าวหน้าใช่มั้ย ดังนั้นจะไปกังวลอะไร ตอนนี้กำลังโชคดี
อาจารย์คะ อาจารย์รู้มั๊ย ว่าทำไมหนูถึงไม่ถามเรื่องของสามีว่าเมื่อไหร่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
เออนั่นดิ ทำไมล่ะ
หนูทำใจได้ละ อาจารย์บอกหนูว่าเมื่อถึงเวลาทุกอย่างค่อยจะกลับมา หนูจะไปเร่งไปรัดมันก็เหนื่อยเปล่า เอาเวลาไปดูแลลูกดูแลตัวเองดีกว่า ส่วนสามีเขาก็ยังไม่ได้ไปไหน ไม่ได้ทิ้งหนู เพียงแต่หนูไม่ชอบที่เขาเป็นแบบนี้หนูจึงทุกข์ หนูไม่ควรทุกข์ใช่มั๊ยคะอาจารย์
ใช่สิ คุณจะทุกข์ไปทำไม คุณอาจจะไม่สิทธิ์ที่จะจัดการกับทุกสิ่งให้ได้ดั่งใจคุณ แต่คุณเป็นเจ้าของโดยแท้จริงของอารมณ์คุณ ที่จะทุกข์หรือสุข ขึ้นอยู่ที่ว่าคุณจะเลือกอะไร

ไพ่ Wheel of Fortune กับการคิดบวก

โดย อ.กามล แสงวงศ์
25 พฤษภาคม 2558

กาลครั้งหนึ่ง มีกษัตริย์ครองนคร ทรงโปรดปรานการท่องป่า ล่าสัตว์เป็นอันมาก กษัตริย์ทรงมีมหาดเล็กคู่ใจ เป็นที่ปรึกษาอยู่คนหนึ่ง

rider_wheel
วันหนึ่ง ได้เกิดกบฏขึ้นภายในพระนคร มีคนลุกฮือขึ้น จะโค่นอำนาจกษัตริย์ ซึ่งก็มีแววจะชนะซะด้วย เมื่อกองทัพกบฏประชิดเมือง กษัตริย์ก็ได้ปรึกษากับคนสนิทเป็นการใหญ่ ซึ่งรวมไปถึงมหาดเล็กคู่ใจของเขาด้วย
กษัตริย์ถามว่า “เจ้าคิดยังไง กับเรื่องนี้”
“ดีพะยะค่ะ”
“ดียังไง”
“สถานการณ์เวลานี้ แม้จะดูไม่สู้ดีนัก แต่อย่างน้อย เราก็จะได้รู้ว่า ใครบ้างที่จะจงรักภักดีกับเรา ใครที่คิดจะแปรพรรค ไปด้านโน้น ซึ่งหากเราปราบกบฏ ครานี้ลงได้ ท่านก็จะเหลือแต่ลูกน้อง ที่จงรักภักดีกับท่าน ทำให้ ไม่ต้องกังวลพระทัย อีกต่อไป พะยะค่ะ”
“อืม นั่นสินะ”
หลังจากนั้น กษัตริย์ก็มีกำลังใจเป็นอันมาก และปราบกบฏลงสำเร็จ
หลังจากนั้นไม่นาน พอย่างเข้าหน้าฝน ฝนก็ตกหนัก จนท่วมลามเข้าในพระนคร ทำให้การคมนาคม ติดขัด ไม่สามารถเดินทาง ออกนอกพระนครได้ กษัตริย์ที่ ปกติ จะออกป่าล่าสัตว์ ก็เกิดอาการหงุดหงิด กษัตริย์ก็ปรึกษา มหาดเล็กอีกครั้ง
“เจ้าคิดยังไงกับเรื่องนี้”
“ดีพะยะค่ะ”
“ดียังไง”
“ถึงแม้ตอนนี้ เราจะไม่สามารถสัญจรไปไหนมาไหนได้ ก็ไม่เป็นไร พะยะค่ะ”
“เนื่องจากตอนนี้ เป็นหน้าฝน อย่างไรเสีย การเสด็จออกป่า ก็คงไม่สนุก เป็นแน่แท้
และเป็นการดีเสียอีก ที่พอน้ำลด เกษตรกรเราก็จะได้ มีน้ำ ทำการเพาะปลูก ได้ผลผลิตงอกงาม และสามารถ กักตุนเสบียงได้ ในยามจำเป็น พะยะค่ะ”
“อืม นั่นสินะ”
พอเสร็จสิ้นหน้าฝน และน้ำลดแล้ว กษัตริย์ก็ทรงออกป่า ล่าสัตว์ ตามที่พระองค์ชอบเหมือนเดิม ซึ่งมหาดเล็กคนเดิม ก็ติดตามไปด้วย แต่แล้วขณะที่ พระองค์ทรงอยู่บนหลังม้า ปลอกพระขรรค์หรือมีดพกที่เหน็บเอว ได้รั่ว ทำให้มีดหล่น เฉือนนิ้วก้อย ของกษัตริย์ ขาดไป ต่อหน้าต่อตา กลายเป็นคนนิ้วด้วน กษัตริย์จึงถาม มหาดเล็กเช่นเดิม
“เจ้าคิดยังไงกับเรื่องนี้”
“ดีพะยะค่ะ”
“ดียังไง หา (ใส่อารมณ์ โกรธสุด ๆ)”
“ยังไงก็ดี กว่าตายพะยะค่ะ”
กษัตริย์โกรธ เลือดขึ้นหน้า สั่งทหารนำมหาดเล็กคนนั้น ไปขังลืมในคุกขี้ไก่..และแล้ว 10 ปี ผ่านไป กษัตริย์ได้ออกล่าสัตว์เหมือนเดิม ขณะที่มหาดเล็ก ก็ยังถูกลืมอยู่ในคุกขี้ไก่เหมือนเดิม ครานี้เป็นโชคร้าย ของกษัตริย์ เมื่อเข้าป่า ไปเจอกับเผ่ากินคน ซึ่งมีจำนวนมากกว่า จำนวนทหาร ที่ติดตามไปด้วยมาก ทหารทั้งหมด จึงถูกจับและถูกต้มกิน เป็น ๆ หมดเกลี้ยงจน เหลือแต่กษัตริย์คนเดียว
เมื่อเผ่ากินคน เตรียม จะเชือดกษัตริย์ลงหม้อ ได้สังเกตเห็นว่า กษัตริย์ไม่มีนิ้วก้อยเท้าไม่ครบ ซึ่งทางเผ่ากินคน ได้มีความเชื่อถือว่า เป็นตัวกาลกิณี กินเข้าไปแล้ว จะเกิดภัยพิบัติ ใหญ่หลวง แก่เผ่าและผู้กิน จึงสั่งปล่อยตัวกษัตริย์ไป กษัตริย์ดีใจมาก
เมื่อกษัตริย์ดีใจ ที่รอดตายกลับเมืองได้ จึงนึกถึงคำเมื่อ 10 ปีก่อน ของมหาดเล็กคู่ใจ จึงลงไปที่คุกขี้ไก่
และสั่งปล่อยตัวมหาดเล็กคู่ใจ ทันที และทรงเล่าเหตุการณ์ ที่เจอมาด้วยความดีใจ ที่รอดชีวิตมาได้
“อืม คำเจ้าเมื่อ 10 ปีก่อน เป็นจริง ยังไง นิ้วก้อยด้วน ก็ยังดีกว่าตาย จริง ๆ”. “พะยะค่ะ”
กษัตริย์จึงถามต่อ
“แล้วอยู่ในคุกขี้ไก่เป็นไงบ้างล่ะหือ”
“ดีพะยะค่ะ”
กษัตริย์ทำหน้างง “ดียังไง”
“ถ้ากระหม่อม ไม่อยู่ในคุก ก็คงตามเสด็จ ท่านไปในวันนั้นด้วย และคงจะโดนเผ่ากินคน กินไปแล้ว พะยะค่ะ”
การมองโลกในแง่ดี เป็นพื้นฐานสำคัญ ที่จะทำให้ชีวิตของเรา มีความสุข การคิดบวก เป็นสิ่งที่ทำให้ทุกอย่าง ในชีวิตของเรา เป็นบวกได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เรื่องชีวิตส่วนตัว เพื่อน คนรัก เพื่อนร่วมงาน ครอบครัว และการทำงาน