โดย อ.กามล แสงวงศ์
8 กันยายน 2558
“ถ้าหนูตายเขาจะเสียใจมั้ยคะอาจารย์”
เสียงที่หลุดมาจากปลายสายนั้นหมดเรี่ยวแรง ฟังแล้วสิ้นหวังเชื่อว่าเธอจะปลิดชีวิตของเธอได้จริงๆ
ลูกค้าที่เป็นแบบนี้มักจะมีเข้ามาปีละคนสองคน ซึ่งถ้าเราปล่อยปละละเลย
อาจจะเกิดโศกนาฎกรรมขึ้นมาได้ บอกตามตรงว่าวันนั้นผมเองก็ไม่พร้อม
ร่างกายยังไม่หายจากไข้มาเลเรีย แต่น้ำเสียงที่ได้ยินนั้น ลางสังหรณ์บอกผมว่า เธอกำลังถูกอารมณ์เล่นงาน เธอฆ่าตัวตายได้แน่ๆ ถ้าอารมณ์มันแรงกว่านี้อีกสักหน่อย
ผมเปิดได้ไพ่ 3 ดาบหัวใจสลาย ดาบที่ปักหัวใจไม่ใช่แค่ดาบเดียว แต่เป็น3ดาบที่ทำให้เจ็บปวดทรมาน จนอยากตายมากกว่าอยู่ ด้านหลังของไพ่เป็นสายฝนที่โปรยปรายจากเมฆทะมึน บอกถึงความปวดร้าวรันทด ที่กลั่นออกมาเป็นหยาดน้ำตา
อาการแบบนี้เธอคงผิดหวังจากอะไรสักอย่าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องความรัก ความรักที่ถูกทำร้ายจากมือที่สาม
ถ้าให้คำปรึกษาไม่ดีพอ หยาดฝนอาจจะกลายเป็นหยดเลือดในวันนี้
ผมเริ่มดึงความสนใจของเธอก่อน เพื่อให้เธอรู้สึกว่าเธอไม่โดดเดี๋ยว เธอมีเพื่อน มีคนรับฟัง มีคนอยู่ข้างๆ
“ผมรู้สึกว่าคนเสียใจมาก เจ็บปวดจริงๆ เรื่องมันเป็นอย่างไรครับ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้มั้ย”
บางครั้งเราไม่ต้องรู้มากก็ได้นะครับ กรณีของคนที่อยากตายนี่เราให้เขาได้พูดได้ร้องไห้ได้ระบายอารมณ์ออกมามากๆจะช่วยเขาได้มากกว่าวางหน้าที่นักพยากรณ์ไว้ก่อนแล้วทำหน้าที่เป็นนักฟังที่ดีมาใช้จะดีกว่านะครับ
“แฟนหนูเขาทิ้งหนูไป เขาไปกับเด็กในโรงงาน เขาไม่มีเยื่อใยกับหนูเลย ทั้งๆที่เราเคยลำบากมาด้วยกัน ทั้งๆที่หนูเสียสละให้เขา พ่อแม่หนูไม่ให้คบกับเขาเพราะเขาเจ้าชู้ หนูก็ดันทุรังคบ จนพ่อแม่ท่านตัดหนูออกจากบ้าน หนูก็ยอม
มาอยู่ด้วยกัน ลำบากยังไงหนูก็อดทนไม่บ่นไม่ว่าสักคำ แล้วเขายังทิ้งหนูได้ลงคอ ตอนนี้บ้านหนูๆก็กลับไม่ได้ หนูตัวคนเดียว หนูไม่มีใครแล้ว หนูอยากตาย อาจารย์ว่า ถ้าหนูตายไป เขาจะเสียใจมั๊ย”เธอพูดเบาๆอย่างอ่อนแรง
“แล้วหนูคิดว่า คนใจร้ายทิ้งหนูไปแบบนี้เขาจะเป็นห่วงหนูมั้ย” ผมถามแบบจี้เข้าไปในปัญหา เพราะถ้าเราไม่ยอมรับว่าเรามีปัญหา เราก็จะไม่ยอมรับว่าเรากำลังมีปัญหา ซึ่งแบบนั้นจะแก้ไขไม่ได้ ก็คนไม่ป่วยจะรักษาอะไรล่ะครับ พอผมถาม เธอก็อึ้ง เงียบ สักพักก็พูดออกมาว่า
“คงไม่เป็นห่วง”
“นั่นน่ะสิ ดังนั้นไม่ว่าเราจะทำอะไร จะเป็นจะตายยังไง เขาก็คงไม่สนใจ เพราะเขาไปแล้วก็ไปลับ แล้วก็คงจะมีแต่หนูที่เสียใจอยู่คนเดียว หนูคิดมั๊ยว่าเขาจะกลับมาหา”
“เขาคงไม่กลับมาหรอกค่ะ”
“นั่นสิ แล้วหนูตัดสินใจอย่างไรดี”
“หนูคิดไม่ออกเลย มันมืดไปหมดทุกด้าน”
“ถ้าคิดไม่ออกก็มีทางเลือกอยู่สองสามอย่าง อย่างแรกไปปฎิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน หรือสถานปฎิบัติธรรมของโคเอนก้าที่ปราจีนบุรี วัดโสมพนัส ต.นาหัวบ่อ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร (ผมเลือกวัดนี้เพราะเคร่งพอที่จะไม่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียว จะได้ไม่คิดสั้น)
อย่างที่สองก็กลับบ้านไปกราบพ่อแม่ขอรับผิดในสิ่งที่ทำมา อย่าได้กลัวความผิด ต้องกล้าที่จะพบพ่อแม่ เพื่อที่จะได้พ้นจากบาปที่ทำไว้กับพ่อแม่
อย่างที่สาม ไปช่วยงานองค์กรการกุศลอย่างวัดพระพุทธบาทน้ำพุ แต่ต้องไปกินไปอยู่ที่นั่นเลย ถ้ามีเวลาไปบ่อยๆ หรือถ้ามีเวลาว่างพอก็อยู่สักเดือนก็ยิ่งดี พักกายพักใจให้สบายใจก่อน ตั้งหลักก่อน แผลร่างกายหรือแผลใจมันก็ต้องอาศัยเวลาในการรักษาเหมือนกัน
ตอนนี้อยากร้องไห้ก็ร้องให้พอ ร้องออกมาให้หมด หลังจากนั้นเราก็จะเข้มแข็งขึ้น ขอให้อดทนผ่านเวลานี้ไปให้ได้ เมื่อไหร่เครียด เมื่อไหร่ทุกข์ก็โทรมานะ ผมยินดีรับฟัง”
บางครั้ง การดูดวงก็อาจจะไม่ได้ดูดวง แต่สิ่งที่สำคัญในบางครั้งกลับเป็นเรื่องของการเป็นเพื่อนรับฟังปัญหาทุกข์ใจของลูกค้า การทำให้ลูกค้ารู้ว่าเขาไม่ได้โดดเดี่ยว ชีวิตเขา ยังมีคนเป็นห่วง ถึงแม้จะไม่เคยพบหน้ากันเลยก็ตาม
เมื่อทำเช่นนั้น มันก็เหมือนกับเราได้จุดเทียนอีกเล่ม ให้สว่างไสวขึ้นมาในโลกน้อยๆใบนี้ แล้วโลกก็จะหอมหวานอบอวลด้วยพลังของความเมตตา